ณ เมืองรีโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล - ความสัมพันธ์ทางธุรกิจของนอร์เวย์กับบราซิลกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุตสาหกรรมของการขนส่งสินค้าทางเรือ และกำลังเติบโตในเรื่องของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ นอร์เวย์เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของบราซิลอันดับที่ 7 และในปีพ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) การค้ารวมระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 47 จากปีพ.ศ.2552 (2009) คิดเป็นมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ผู้ที่มีบทบาทสำคัญ นั่นคือสภาหอการค้านอร์เวย์-บราซิล(Norwegian-Brazilian Chamber of Commerce, NBCC) ตั้งอยู่ที่รีโอ NBCC ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 เป็นสมาคมที่ไม่แสวงหาผลกำไรและไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเพื่อส่งเสริมการค้าและสนับสนุนธุรกิจ รวมไปถึงผลประโยชน์ทางด้านการเงิน และด้านวิชาชีพ ระหว่างนอร์เวย์กับบราซิล
ประธานสภาหอการค้า ทอร์-โอวี ฮอรชตาด (Tor-Ove Horstad) กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญคือการร่วมมือกัน และ NBCC อยู่ที่นี่เพื่อแบ่งปันความสามารถเฉพาะทางขององค์กรไปยังอุตสาหกรรมพลังงาน รวมทั้งสร้างความร่วมมือในทุกอุตสาหกรรม ความคิดคือการที่จะช่วยทุกบริษัทของนอร์เวย์ที่เก่าแก่ และ บริษัทที่เพิ่งจะเติบโต
ปีนี้เมืองรีโอ เดอ จาเนโร กำลังเพ่งเล็งไปที่ การเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่นอร์เวย์ประจำบราซิล จากนางสาวแอนนี่ วิเบอเก้ ลิโล (Anne Vibeke Lilloe) เป็น ท่านกงสุลใหญ่เฮเล เคลม(Helle Klem) หลังจากช่วงเวลาของความก้าวหน้าอย่างรุนแรง 5 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทของนอร์เวย์ประมาณ 65 แห่งในบราซิล ปัจจุบันมีมากกว่า 100 และ อีก 50 ธุรกิจนอร์เวย์ทำงานผ่านตัวแทน นางสาวแอนนี่ วิเบอเก้ ลิโล (Anne Vibeke Lilloe) กล่าวผ่านจดหมายข่าวของ NBCC
สถานกงสุลนอร์เวย์ใน รีโอ มีความสัมพันธ์ในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหลายองค์กรธุรกิจของนอร์เวย์ เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ของชาวนอร์เวย์ในบราซิล : นวัตกรรมของนอร์เวย์(Innovation Norway) สภาการส่งออกอาหารทะเลของนอร์เวย์(Norwegian Seafood Export Council) สภาหอการค้าบราซิลนอร์เวย์(NBCC) และ มูลนิธิINTSOK ที่มีการบริการที่หลากหลายสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ
การค้นพบน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ครั้งใหม่ของบราซิลทำให้ประเทศบราซิลกลายเป็นคู่ค้าที่มีคุณค่าต่อหุ้นส่วนทางธุรกิจ กล่าวโดยนางสาวแอนนี่ วิเบอเก้ ลิโล (Anne Vibeke Lilloe) นอร์เวย์พัฒนาเทคโนโลยีและบริการขั้นสูงกว่าหลายปี ซึ่งมีค่าสำหรับบราซิลในสถานการณ์ขณะนี้
เดิมทีสินค้าประเภท bacalhau หรือ ปลาคอดแห้ง เป็นสินค้าที่มีมูลค่าถึง 1 ใน 4 ของการส่งออกของสินค้าทั้งหมดจากนอร์เวย์ไปยังบราซิล อย่างไรก็ตามการค้นพบน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ครั้งใหม่บนไหล่ทวีปของประเทศบราซิล ได้ทำให้บราซิลเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับบริษัทน้ำมัน และ อุตสาหกรรมด้านอุปทานที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียม
บริษัทน้ำมันของนอร์เวย์ นามว่า สแตตออยล์(Statoil) ได้ดำเนินการขุดเจาะบ่อน้ำมันนอกชายฝั่งนามว่า เปเรกริโน (Peregrino) อยู่ที่แอ่งคามโปส(Campos basin) ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งบริษัทสแตตออยล์(Statoil) มีที่ตั้งอยู่ที่กรุงออสโล ได้กล่าวว่าต้องการเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเรื่องของน้ำมันในบราซิล รองจากเปโตรบาส(Petrobras) ภายในหนึ่งปี
สิ่งนี้หมายถึงการยึดครองตำแหน่งของ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง Shell ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างประเทศอังกฤษกับประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อมันประสบความสำเร็จในการผลิต 100,000 บาร์เรลต่อวัน และการก่อตั้งสแตตออยล์(Statoil) ในรายชื่อบัญชีของบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติที่มีการลงทุนอย่างมากในอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเลียมในบราซิล
เพื่อสนับสนุนความพยายามเหล่านี้และอื่นๆ NBCC ได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษสำหรับบริษัทนอร์เวย์ในบราซิล ในวันรัฐธรรมนูญของนอร์เวย์ (17 พฤษภาคม) ทางNBCC เฉลิมฉลองสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าวันนอร์เวย์ (Norway Day) กับงานสัมมนาธุรกิจและ พร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มนอร์เวย์ กับแขกชาวนอร์เวย์และบราซิลกว่าร้อยคน และยังอนุญาตให้ประธานสภาหอการค้า ทอร์-โอวี ฮอรชตาด (Tor-Ove Horstad) กล่าวขอบคุณ ท่านกงสุลใหญ่นางสาวแอนนี่ วิเบอเก้ ลิโล (Anne Vibeke Lilloe) ที่กำลังจาลาจากไป สำหรับการสนับสนุนทั้งหมดของเธอตลอดปีซึ่งได้ส่งเสริมธุรกิจของชาวนอร์เวย์ในบราซิล
|