พัดลมเพดานหมุนด้วยความเร็วเต็มที่ยังไม่พอที่จะให้ห้องเย็นขึ้น แต่เกษตรกรรวมตัวกันที่ศาลากลางของ Irituia ณ สถานที่ที่เคยเป็นสถานที่ที่สร้างความยุ่งยากในลุ่มแม่น้ำอเมซอน

ที่นั่งพลาสติกส่วนใหญ่นั้นว่างเปล่า แต่ผู้คนจำนวน 30 คน หรือ ประชาชนที่เข้าร่วมประชุมใน Irituia มีความสนใจในการอภิปรายเกี่ยวกับการเกษตรกรรมที่มิตรต่อ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพของโลกซึ่งอยู่ในดินแดนของพวกเขา

เมารู ลูซีอู คอสต้า (Mauro Lucio Costa) ประธานสหภาพเกษตรกรแห่งปาราโกมินาช(Farmer's Union of Paragominas) กล่าวว่า "พวกเรายัง มีจำนวนไม่มาก แต่เราสังเกตเห็นว่า และตระหนักว่าการทำฟาร์ม ที่ยั่งยืนเป็นวิธีเดียวที่จะไป และที่เราไม่ต้องมีศัตรูของสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเราสังเกตทีละเล็กทีละน้อย"

เมืองปาราโกมินาช (Paragominas) ก็เหมือนกับ ไอริตูเอีย(Irituia) ต่างก็ตั้งอยู่ในรัฐปาร่า(Para) ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆของการตัดไม้ทำลายป่าในประเทศบราซิลในปี 2008 และอยู่ในบัญชีดำของรัฐบาล

แต่ตั้งแต่นั้นมาโรงงานแปรรูปไม้ถูกปิดและมีการตรวจสอบฟาร์มเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัด

เกษตรกรคนหนึ่ง กล่าวกับที่ประชุมว่า "มันไร้ประโยชน์ในปัจจุบันนี้ ที่จะตัดต้นไม้ในเวลากลางคืน หรืออยู่ห่างจากถนนเพื่อให้ได้ ออกไปกับตัดไม้ทำลายป่าเพราะตอนนี้พวกเขากำลังดูพวกเราด้วยดาวเทียม. ฉันพยายามที่จะไม่นานมาแล้วและโดนปรับหนัก,"

การต่อต้านกับสิ่งที่สำคัญ

แต่เกษตรกรผู้ที่สามารถปรับแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมจะถ่างตาได้มากกว่าผู้ที่ส่ายหัว โดยดั่งที่สภาบราซิลกำลังสร้างความตึงเครียดด้วยการถกปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพระราชบัญญัติป่าไม้ของบราซิล

กฎหมายสิ่งแวดล้อมนี้กำหนดให้เจ้าของที่ดินในเขตป่าอเมซอน(Amazon) ต้องรักษาพื้นที่ร้อยละ 80 ของพื้นที่ป่าของพวกเขา ในขณะที่พื้นที่ป่าอื่นๆ จะลดลงถึง 20% สำหรับรัฐต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในอาณาเขตป่าอเมซอน(Amazon) ในประเทศบราซิล

ข้อเสนอที่จะเปลี่ยนตัวบทกฎหมาย ได้ออกแบบให้เหมาะสมกับ ผู้ที่เห็นการพัฒนา และ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในฐานะที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด (รวมถึงเกษตรกรจำนวนมาก แต่ไม่ทั้งหมด) เพื่อที่จะต่อกรกับบรรดาผู้ที่เห็นการอนุรักษ์เป็นประเด็นสำคัญ กลุ่มซึ่งรวมถึงนักสิ่งแวดล้อม และชุมชนที่มีความคิดแบบนักวิทยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่

"กลุ่มNGO เหล่านี้เป็นมาเฟียธุรกิจระหว่างประเทศที่ค้างไว้เป็นตัวประกันโดยข่มขู่เพื่อที่จะทำลายชื่อเสียง ของผู้ที่คัดค้าน [พวกเขา หรือ กลุ่มNGO ดังกล่าว]. กลุ่มคนเหล่านี้เจริญเติบโตได้เมื่อมีความขัดแย้ง," คาเทีย อาเบรว (Katia Abreu) กล่าวว่าผู้นำของบราซิลที่ทรงพลังของสมาพันธ์เกษตรแห่งชาติ (CNA - Confedera??o da Agricultura e Pecu?ria do Brasil, National Confederation of Agriculture and Livestock)

"พวกเขาต้องการตัดเกษตรกรบราซิลออกจากพื้นที่ ดั่งที่เราเป็นวัชพืชบางชนิดมีพิษ"

แรงกดดัน

การปฏิรูปพระราชบัญญัติป่าไม้ของบราซิลได้รับการถกเถียงมานานกว่า 15 ปี

เพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นรุ่นลบล้างข้อจำกัดในการใช้พื้นที่ป่าไม้ ซึ่งจะได้รับการอนุมัติโดยสภาผู้แทนราษฎร

แต่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจัดการรวบรวมการสนับสนุนทางการเมือง และภาคประชาชนมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้การออกเสียงลงมติอนุมัติตัวบทกฎหมายต้องหยุดชะงัก

นายเปาลู อาดาเรียว (Paulo Adario) ผู้ประสานงานสำหรับโครงการอเมซอนแห่งกรีนพีซ กล่าวว่า"ถึงแม้ ว่าพระราชบัญญัติป่าไม้อยู่ภายใต้การอภิปรายที่รุนแรงเป็นเวลาหลายปีมันเป็นเช่นนั้นเมื่อเร็ว ๆ นี้เท่านั้น ภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติในคณะกรรมการรัฐสภา นั่นทำให้สื่อมวลชนต่างๆ เข้ามาสนใจตัวบทกฎหมายดังกล่าว "

นายเปาลู อาดาเรียว (Paulo Adario) กล่าว "ผมคิด ว่าแรงกดดันจากความคิดเห็นของประชาชนและต่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็นที่จะหยุด ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ ซึ่งเป็นวิธีทางที่เกษตรกรต้องการมัน และเพื่อเข้าไปถึงตัวรัฐบาลของประธานาธิบดี [ดิลมา] ดิลมา รุสเซฟฟ์ให้การสนับสนุนบางส่วนของข้อกังวลของเรา"