นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายเท็ตสึจิ บันโน
ประธานหอการค้าญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และนายโยอิชิ คาโต
ประธานองค์การการค้าระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Jetro) เมื่อวันที่
17 ตุลาคม ว่า
ทางญี่ปุ่นได้สอบถามถึงความคืบหน้าและแสดงความกังวลในหลายประเด็น
อาทิ ความล่าช้าในการลงนามจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น
ว่าต้องรอไปถึงรัฐบาลหน้าหรือไม่
จึงได้แจ้งไปว่ากำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างดีที่สุด
และจะมีการหารือกับเอกชนสำคัญ 5-6 รายอีกครั้ง
ก่อนสรุปและนำเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาว่าจะเห็นชอบหรือไม่
"ผมได้แจ้งกับญี่ปุ่นว่าอย่างไรเราก็สามารถพัฒนาการค้าการลงทุนระหว่างกันได้
ซึ่งตอนนี้กำลังผลิตก็เกิน 80% แล้ว
และรัฐบาลไทยก็มีนโยบายเสรียิ่งขึ้น แต่ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
แม้ไม่มีการลงนามก็ไม่ใช่จะเป็นเหตุให้ไม่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี
แต่เราขอพิจารณาให้รอบคอบและรวดเร็วเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนญี่ปุ่นนั้นผมเชื่อว่ายังอยากเห็นข้อตกลง
ซึ่งตอนนี้เขาเดินหน้าลงนามกับประเทศอื่นแล้ว เช่น มาเลเซีย
ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย"
นายเกริกไกรกล่าวว่า
นอกจากนี้ยังแสดงความเป็นห่วงการที่รัฐบาลออกมาตรการคุมราคาสินค้า
ซึ่งทางญี่ปุ่นแจ้งว่าตอนนี้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแต่กระทรวงพาณิชย์ยังคุมอยู่จึงอยากให้มีการทบทวน
และการบังคับใช้ พ.ร.บ.การประกอบการของคนต่างด้าว พ.ศ.2542
ว่าจะนำมาใช้กำกับหรือจำกัดสิทธิอะไรหรือไม่
ซึ่งตนได้แจ้งว่ารัฐบาลมีเหตุผลต่อการพิจารณาทุกเรื่อง
และพิจารณาบนพื้นฐานที่อยู่ได้ทุกฝ่าย
|