นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 18 วันที่ 15-16 พฤศจิกายน
2549 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ว่า
หนึ่งในหัวข้อที่สมาชิกได้หารือกันอย่างกว้างขวางคือ
ข้อเสนอของสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปค (APEC Business Advisory Council:
ABAC) ที่ให้เอเปคมีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิค (Free Trade
Area for Asia-Pacific : FTAAP)
นายเกริกไกร ยืนยันว่า ระบบการค้าพหุภาคีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ดังนั้นควรยึดมั่นในการเจรจารอบโดฮาและผลักดันให้มีสำเร็จ
นอกจากนั้นเอเปคก็ยังมีงานอีกมากที่จะต้องดำเนินการเพื่อให้สามารถเปิดเสรีการค้าการลงทุนได้ตามเป้าหมายโบกอร์ภายในปี
2010 ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 3 ปี สำหรับ FTAAP นั้น
นายเกริกไกรเห็นว่า ในขณะนี้ การจัดทำ FTAAP
เป็นเรื่องยากเนื่องจากสมาชิกมีความแตกต่างในระดับการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง
และหากเอเปคจะจัดทำ FTAAP
ภายหลังการเปิดเสรีรอบโดฮาและเป้าหมายโบกอร์เสร็จแล้วก็จะไม่มีประโยชน์เพราะสมาชิกได้ลดอุปสรรคทางการค้าลงมากแล้ว
นอกจากนี้ เอเปคยังได้หารือเกี่ยวกับการเจรจารอบโดฮา
และต่างเห็นพ้องกันที่จะช่วยผลักดันการเจรจากลับฟื้นขึ้นมาและมีความคืบหน้า
และให้นาย Pascal Lamy นำสมาชิกกลับมาเจรจากันต่อ
โดยเรียกร้องให้สมาชิกไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหรือไม่ใช่สมาชิกเอเปคยืดหยุ่นท่าทีของตนให้มากกว่าที่ได้ให้ไว้ก่อนการระงับการเจรจา
ในโอกาสนี้
นายเกริกไกรได้แสดงความยินดีต่อเวียดนามที่เข้าเป็นสมาชิก WTO
และแสดงเจตนารมณ์ที่จะให้ความร่วมมือกับเวียดนามอย่างเต็มที่เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะให้การปรับตัวของเวียดนามเป็นไปอย่างราบรื่นและได้รับประโยชน์จากการเข้าเป็นสมาชิก
WTO ขณะเดียวกันก็ได้กล่าวถึง
นโยบายการค้าของไทยที่ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเปิดเสรีอย่างรอบคอบ
มีระบบ ควบคู่กับการใช้คุณธรรม และไม่ปิดกั้น
ไทยยังคงให้การสนับสนุนและความสำคัญกับการเจรจาการค้าพหุภาคี
และการรวมตัวของอาเซียน ส่วน FTA
ไทยก็จะพิจารณาจัดทำกับประเทศที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนี้ จากการที่ปัจจุบันสมาชิกได้มีการจัดทำ RTAs/FTAs
กันมากและแต่ละฉบับก็มีกฎเกณฑ์แตกต่างกันออกไป เอเปคจึงได้จัดทำ model
measures หรือ RTAs/FTAs เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับการจัดทำ RTAs/FTAs
ของสมาชิก โดยในปีนี้ รัฐมนตรีเอเปคได้รับรอง model measures จำนวน 6
เรื่องจากทั้งหมด 14 เรื่อง ประกอบด้วย Trade in goods; Technical Barriers
to Trade; Transparency; Government Procurement, Dispute Settlement และ
Cooperation
โดยข้อบทที่เหลืออยู่ให้ทำต่อไปในปีหน้าซึ่งมีข้อทที่เป็นข้อเสนอของไทยรวมอยู่ด้วย
คือ SPS; Anti-Dumping; Rules of Origin; Countervailing and ountervailing
Measures
ในประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีเอเปคยังได้เห็นชอบในแผนงาน 2
เรื่องของเอเปค คือ แผนปฏิบัติงานเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade
Facilitation Action Plan)
ในช่วงต่อไปเพื่อลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการค้าภายในภูมิภาคลงอีก 5% ในปี
2010
และแนวทางการปฏิบัติเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
และป้องกันไม่ให้สินค้าละเมิดผ่านเข้ามาทางช่องทางการค้าตลอดช่วง supply
chain