|
ทิศทางเศรษฐกิจไทยภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โดย ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล |
| |
| |
ผู้ส่งออกผักโวยน้ำท่วมปิดฟาร์มหนี |
|
| |
นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์
ประธานกรรมการบริษัทกำแพงแสนคอมเมอร์เชียล จำกัด เปิดเผยว่า
จากที่กรมชลประทาน ผันน้ำเข้าพื้นที่เขต จ.สุพรรณบุรี
เพื่อป้องกันน้ำท่วมในเขต กทม. ส่งผลให้ฟาร์มปลูกผัก ของบริษัท พื้นที่ 50
ไร่ ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง ตั้งแต่เดือนต.ค. ที่ผ่านมา
เสียหายมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท
หากรวมค่าเสียโอกาสที่บริษัทไม่สามารถส่งออกได้ตามออเดอร์
โดยผักที่ฟาร์มดังกล่าว จะมีมูลค่าเสียหายมากถึง 50-60 ล้านบาท
ส่วนใหญ่จะส่งออกในตลาดสหภาพยุโรป(อียู) ปัจจุบัน ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว
ได้หันไปสั่งออเดอร์จากผู้ประกอบการรายอื่น ส่วนนโยบายของบริษัทในขณะนี้
คือต้องปิดฟาร์มดังกล่าว
เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกที่ไม่มีความเหมาะสมไปแล้วและย้ายพื้นที่การปลูกผักใหม่
"ฟาร์มของบริษัทที่สุพรรณบุรี
เป็นการปลูกผักในโรงเรือนปิด ได้รับการรับรองการทำการเกษตรที่ดีและเหมาะสม
หรือจีเอพี เนื่องจากทั้งหมดผลิตเพื่อการส่งออก จึงใช้วงเงินลงทุนสูง
ดังนั้นเมื่อเกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งคาดว่าจะนาน ประมาณ 4-5 เดือน
ความเสียหายจึงมีมากกว่าการปลูกผักทั่วไป
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ศึกษาเป็นอย่างดีแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่เคยมีปัญหาน้ำท่วม
จึงตัดสินใจลงทุนสร้างฟาร์ม แต่เมื่อปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นมาจากการผันน้ำ
เพื่อป้องกันเขตกทม. ดังนั้น คนกทม. ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย"
นายไพชยนต์ เอื้อทวีกุล
กรรมการผู้จัดการบริษัทสวิฟท์ จำกัด กล่าวว่า
พื้นที่ปลูกผักของบริษัทที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม
อยู่ในเขตสุพรรณบุรี และปราจีนบุรี
ซึ่งเป็นพื้นที่บริษัททำสัญญารับซื้อกับเกษตรกร หรือคอนแทรคฟาร์มมิ่ง
มูลค่าประมาณ 2-5 ล้านบาท
ซึ่งในขณะนี้บริษัทได้เข้าไปจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรส่วนหนึ่งแล้ว
เพื่อให้เกษตรกรเหล่านี้ทำการฟื้นฟูเพื่อปลูกผักต่อไปได้
แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเนื่องเชื้อโรคที่มากับน้ำท่วม
จะปนเปื้อนในผัก ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการส่งออกผักอินทรีย์
(กรอบบ่าย)
หน้า 9 |
|
| |
|
ที่มา
:ข่าวสด
วันที่
20
พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
. |
|
|
