.
กรมทรัพย์สินทางปัญญาเตรียมหารือกับกรมการค้าภายในเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะดึงธุรกิจเพลง
ภาพยนตร์ และสื่อการศึกษา ให้เป็นสินค้าควบคุม
ย้ำปัจจุบันสื่อเหล่านี้เข้ามามีบทบาททางด้านการศึกษาเพิ่มขึ้นไม่ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
ชี้หากทำได้นอกจากรู้ต้นทุนที่แท้จริง ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์
และการจัดสรรผลประโยชน์แต่ละขั้นตอนจะน้อยลงแน่นอน
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์
รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า
จะหารือร่วมกับกรมการค้าภายในเพื่อดึงภาคธุรกิจเพลง ภาพยนตร์
และสื่อการศึกษา ที่ต้องใช้แผ่นซีดี ดีวีดี และเทปต่าง ๆ
ให้เป็นสินค้าควบคุม
ที่ผู้ผลิตและนำเข้าจะต้องแจ้งต้นทุนการผลิตและนำเข้าให้กับกรมการค้าภายในได้รับทราบ
หากดำเนินการได้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการผลิต
การตลาด และการจัดจำหน่ายอย่างมาก คาดว่าจะประชุมหารือร่วมกันได้ในเร็ว ๆ
นี้
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจเพลงและภาพยนตร์หรือแม้แต่ด้านการศึกษาหันมาใช้สื่อด้านซีดี
ดีวีดี
และเทป
กันมากขึ้น แต่ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ภาพยนตร์ มีจำนวนมากขึ้น
แม้ว่าทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมมือกันปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ในรูปแบบต่าง
ๆ กันอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งบางพื้นที่ปริมาณการละเมิดลดลง แต่บางพื้นที่ก็ยังมีอยู่หมดไปได้ยาก
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นทาง
หากดูต้นทุนที่แท้จริงในการผลิตแผ่นซีดี ดีวีดี
ทั้งเพลงและภาพยนตร์ต่อแผ่นไม่ถึง 10 บาท
แต่การแบ่งผลประโยชน์หรือค่าลิขสิทธิ์ทั้งผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ค่ายศิลปิน
ค่าการตลาด และอื่น ๆ ทำให้ต้นทุนการจำหน่ายเพลงและภาพยนตร์มีราคาสูงมาก
ประกอบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้การคัดลอกเลียนแบบทำได้ง่ายมีต้นทุนไม่สูงและขายได้ในราคาต่ำกว่าของจริงหลายเท่าตัว
จึงคิดว่าวิธีการปราบปรามเทปผีซีดีเถื่อนหรือการรณรงค์ให้คนหันมาใช้ของถูกกฎหมายยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
นายบรรยงค์ กล่าว
นายบรรยงค์
กล่าวอีกว่า
เมื่อกระทรวงพาณิชย์สามารถนำธุรกิจเพลงและภาพยนตร์เป็นสินค้าควบคุมได้จะทำให้รู้ต้นทุนต่าง
ๆ ของผู้ผลิตและการจัดสรรผลประโยชน์ในแต่ละช่วงจะมีความเป็นธรรมมากขึ้น
ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับกรมการค้าภายในจะเห็นความสำคัญตรงนี้หรือไม่
เพราะก่อนหน้านี้หลายฝ่ายมองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจฟุ่มเฟือย
แต่ปัจจุบันธุรกิจเหล่านี้เข้ามามีบทบาทด้านธุรกิจและสังคมมากขึ้น
จึงเห็นว่าหากกำหนดเป็นสินค้าควบคุมได้นอกจากจะควบคุมการขยายตัวของการละเมิดลิขสิทธิ์ให้น้อยลงแล้วยังจะทำให้สินค้าเหล่านี้มีราคาไม่แพงอย่างเช่นปัจจุบันได้
อย่างไรก็ตาม
กรมทรัพย์สินทางปัญญากำลังรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับร่างกฎหมายลิขสิทธิ์
เมื่อผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วก็จะส่งต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาก่อนที่จะประกาศใช้เป็นกฎหมายในการควบคุม
ซึ่งร่างกฎหมายลิขสิทธิ์จะเป็นการกำหนดแนวทางการจัดสรรผลประโยชน์ด้านธุรกิจเพลงและภาพยนตร์ในแต่ละช่วงให้มีความชัดเจนและเป็นธรรม
เพราะขณะนี้การจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงโดยเฉพาะคาราโอเกะของแต่ละค่ายเพลงมีปัญหาการเรียกเก็บที่ซ้ำซ้อนมาจากทั้งตัวครูเพลง
ศิลปิน
บริษัทผู้ดูแลที่ได้มอบหมายให้คนกลางเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์และปัญหาอื่น ๆ
ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นคนกลางให้ทุกฝ่ายสามารถตกลงได้ ดังนั้น
จึงเชื่อว่าปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ การแบ่งผลประโยชน์
ปัญหาเทปผีซีดีเถื่อน
เมื่อมีกฎหมายการจัดเก็บลิขสิทธิ์หรือระเบียบนำธุรกิจนี้เป็นสินค้าควบคุมได้จะทำให้ปัญหาหมดไปอย่างแน่นอน
|