สั่งทูตพาณิชย์ทั่วโลกทบทวนตัวเลขส่งออกปีหน้าอีกครั้ง

     อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกไปกำหนดแนวทางเป้าหมายตัวเลขการส่งออกในปี 2550 อีกครั้งหนึ่งบนพื้นฐานแนวทางนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมกำชับแนวทางการทำงานของทูตพาณิชย์จะต้องปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงตลาดภูมิภาคอาเซียนด้วย

     นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยภายหลังการประชุมเป้าหมายส่งออกและแผนปฏิบัติงานปี 2550 ว่าเป้าหมายการส่งออกสินค้าไทยในปี 2550 ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการส่งออกไปกำหนดอีกครั้งก่อนเสนอกลับมาให้พิจารณาภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โดยหมายความว่าการกำหนดเป้าหมายการส่งออกแต่ละประเทศจะต้องดูศักยภาพที่ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกได้ไม่เกินกำลังของตนเอง โดยจะไม่กำหนดเป้าหมายในระดับสูงแต่ศักยภาพการส่งออกไปไม่ถึง คาดว่าจะได้ข้อสรุปเป้ารวมการส่งออกของปีหน้าก่อนสิ้นปี 2549 นี้

     “ในที่ประชุมได้พูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง โดยนายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้ทูตพาณิชย์รับทราบว่าคำว่าพอเพียงจะต้องสอดคล้องกับเศรษฐกิจเสรี แต่ต้องมีคุณธรรมในการทำงาน ซึ่งรูปแบบจะต้องทำพอดี อย่าเกินตัว เช่น การผลักดันส่งออกสินค้าไทย หากมีศักยภาพผลิตแค่ 100 ชิ้น แต่ไปตั้งเป้าหมายการส่งออก 400 ชิ้น ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก” นายราเชนทร์ กล่าว

     นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางการทำงานของทูตพาณิชย์ที่จะต้องปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงตลาดภูมิภาคอาเซียนว่าจะเสริมยุทธศาสตร์อย่างไรให้เพิ่มความเข้มแข็งในกลุ่มอาเซียนเอง ซึ่งเป็นนโยบายที่นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ต้องการให้เกิดขึ้น

     สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกสินค้าไทยในปี 2550 นอกจากเรื่องเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจของตลาดคู่ค้าหลักของไทย เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ยังมีเรื่องกฎระเบียบทางการค้าที่จะเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันแต่ละประเทศจะเน้นเปิดการค้าเสรีที่จะลดภาษีสินค้าให้ระหว่างกันทำให้ต้องใช้รูปแบบการกีดกันการค้าด้านอื่น โดยประเมินว่าในปีหน้ากลุ่มอาหารสินค้าเกษตรจะถูกกฏระเบียบทางการค้าควบคุมการทะลักของสินค้ามากขึ้น

ที่มา :คมชัดลึก

วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 .