การประชุมครั้งนี้ไทยจะชูเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง"
เพื่อตอกย้ำว่านโยบาย ดังกล่าวไม่ได้ขัดกับหลักการเปิดเสรี
แต่จะช่วยสนับสนุนการค้าให้เป็นธรรมยิ่งขึ้น
นางสาวชุติมาได้กล่าวถึง
การประชุมรัฐมนตรีเอเปคที่กำลังจะมีขึ้นว่า
เนื่องจากการเจรจารอบโดฮาหยุดชะงักงัน
การประชุมเอเปคครั้งนี้จึงมีความสำคัญ ในการที่สมาชิกจะหารือกันว่า
จะช่วยฟื้นการเจรจารอบโดฮา ที่ชะงักอยู่ในขณะนี้ได้อย่างไร
ไทยจะใช้โอกาสดังกล่าวยืนยันนโยบายของรัฐบาลที่ยังคงสนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้าและการเจรจารอบโดฮาโดยใช้ปรัชญาพอเพียงเพื่อสร้างความสมดุลอย่างยั่งยืนต่อระบบเศรษฐกิจ
และสนับสนุนการเปิดเสรีการค้าให้เป็นธรรมยิ่งขึ้น
นอกจากนี้รัฐมนตรีเอเปคจะมีการหารือก็คือข้อเสนอของสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปค
(APEC BUSINESS ADVISORY COUNCIL: ABAC) ที่จะให้เอเปคพิจารณาความเป็นไปได้
ในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีของเอเปค (FREE TRADE AREA OF THE ASIA-PACIFIC:
FTAAP) ทั้งนี้
สมาชิกบางประเทศพยายามผลักดันให้ที่ประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคปีนี้
ตกลงที่จะให้มีการหารือเกี่ยวกับแผนการนำเอเปคไปสู่ FTA
อย่างจริงจังในปีหน้าที่ออสเตรเลียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
นอกจากนี้ที่ประชุมรัฐมนตรีจะมีการรับรองแผนงาน 2 เรื่อง คือ
แผนปฏิบัติการฮานอย หรือที่เรียกว่า HANOI ACTION PLAN
ซึ่งกำหนดรายละเอียดแผนปฏิบัติงานช่วงต่อไปที่จะไปสู่เป้าหมายโบกอร์
และแผนการอำนวยความสะดวกทางการค้า (TRADE FACILITATION ACTION PLAN)
ที่เอเปคจะดำเนินการร่วมกันเพื่อลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการค้าภายในภูมิภาคลงอีก
5% ในปี 2010
ซึ่งแผนงานดังกล่าวจะช่วยให้เอเปคเดินหน้าไปสู่เป้าหมายโบกอร์ในการเปิดเสรีการค้าการลงทุนในปี
2010 สำหรับประเทศพัฒนาแล้ว และ 2020 สำหรับประเทศกำลังพัฒนา
นางสาวชุติมากล่าวต่อว่า ในช่วงการประชุมครั้งนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะมีการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีการค้าของสมาชิก
เช่น จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เวียดนาม รัสเซีย
เพื่อหารือปัญหาการค้าและความร่วมมือด้านต่างๆ