เทศกาลกินเจในปี
2550 นี้อยู่ในระหว่างวันที่
11-20
ตุลาคมคาดว่าคึกคักเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
ปัจจัยหนุนเทศกาลกินเจในปีนี้คือ
การเชื่อมโยงการเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระชนมายุครบ
80 พรรษา
โดยตั้งวัตถุประสงค์ว่าเป็นการกินเจเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำบุญถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทำให้คาดหมายว่าในปีนี้จำนวนคนที่จะหันมาร่วมกินเจในช่วงเทศกาลกินเจมีเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญของเทศกาลกินเจในปีนี้คือ
ราคาผักที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น
แม้ว่าในช่วงเทศกาลกินเจทุกปีราคาผักจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่ในปีนี้มีแนวโน้มว่าราคาผักจะสูงเป็นประวัติการณ์
เนื่องจากราคาผักหลายประเภทมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์สูงมาตั้งแต่ต้นปี
และยิ่งใกล้เทศกาลกินเจราคาก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ส่งผลให้ราคาอาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขายและอาหารเจตามสั่งน่าจะมีแนวโน้มแพงขึ้น
โดยคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 5-10
บาทเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทำให้ผู้บริโภคอาหารเจต้องปรับตัว
โดยการหันไปซื้ออาหารเจสำเร็จรูป เช่น
อาหารกล่องแช่แข็ง ติ่มซำเจ เบเกอรี่เจ อาหารเจกระป๋อง
เป็นต้น รวมทั้งอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป เช่น
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
กันมากขึ้น
จึงคาดว่าอาหารเจสำเร็จรูปรวมทั้งอาหารเจกึ่งสำเร็จรูปมีแนวโน้มจะมียอดจำหน่ายสูงขึ้น
เนื่องจากราคาอาหารเจเหล่านี้ราคาไม่ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากนัก
อย่างไรก็ตามเทศกาลกินเจเป็นหนึ่งในเทศกาลที่บรรดาธุรกิจที่เกี่ยวข้องสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเทศกาลหนึ่ง
ดังนั้นหลากหลายธุรกิจหันมาเกาะกระแสอาหารเจในฐานะที่เป็นอาหารสุขภาพ
ซึ่งเป็นกระแสที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน
โดยจะเห็นได้จากที่เริ่มมีการประชาสัมพันธ์ถึงเทศกาลกินเจในสื่อต่างๆ
ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม
ซึ่งในปีนี้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้จำหน่ายอาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขายหรืออาหารเจตามสั่งที่จะสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากเทศกาลกินเจนั้นกุญแจสำคัญคือการรู้จักพลิกแพลงในการใช้วัตถุดิบ
ซึ่งทำให้สามารถคงราคาอาหารเจไว้ได้มากที่สุด
และจะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการดึงดูดลูกค้า
คาดว่าในปี
2550
นี้คนไทยที่ตั้งใจจะกินเจมีมากขึ้น
นอกจากเพื่อต้องการทำบุญทำทานงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์แล้ว
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ
ต้องการทำบุญถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสจะมีพระชนมายุครบ
80 พรรษา
รวมทั้งยังได้กระแสสนับสนุนการที่ผู้บริโภคหันมาสนใจบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น
นอกจากนี้บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารหันมาขยายผลิตภัณฑ์อาหารเจหลากหลายชนิดตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นอาหารเจแช่เย็นแช่แข็ง
อาหารเจกึ่งสำเร็จรูป และเบเกอรี่เจ
ทำให้ผู้ที่ต้องการบริโภคอาหารเจมีทางเลือกมากขึ้น
อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังเน้นนโยบายประหยัดเช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา
เนื่องจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจ
ทำให้บรรดาผู้ที่จำหน่ายอาหารเจบางรายต้องปรับตัวโดยการใช้กลยุทธ์ไม่ปรับราคา
โดยอาจจะลดปริมาณลงเล็กน้อยหรือปรับวัตถุดิบเพื่อเฉลี่ยต้นทุนไม่ให้เพิ่มขึ้นมากนักทำให้สามารถจำหน่ายในราคาเดิมได้
อย่างไรก็ตามผู้จำหน่ายอาหารเจบางรายก็ตัดสินใจไม่จำหน่ายอาหารเจในปีนี้
หรือบางรายก็ปรับราคาจำหน่ายโดยเน้นการทำความเข้าใจกับลูกค้าถึงปัญหาวัตถุดิบโดยเฉพาะผักที่แพงขึ้นอย่างมากในปีนี้
นอกจากนี้ผู้ประกอบการขายอาหารเจก็ปรับตัวด้วยการเริ่มจำหน่ายอาหารเจล่วงหน้าตั้งแต่ในช่วงวันที่
8 ตุลาคม
แม้ว่าเทศกาลรับประทานอาหารเจจะเริ่มในช่วงเย็นของวันที่
10 ตุลาคม
ซึ่งถือว่าเป็นมื้อล้างท้องก่อนที่จะเข้าสู่การรับประทานอาหารเจกันจริงๆในตอนเช้าตรู่ของวันที่
11 ตุลาคม
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าตั้งแต่ช่วงวันที่ 8
ตุลาคมจะเริ่มเห็นร้านอาหารเจที่มีธงสีเหลืองซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์ของอาหารเจมีให้เห็นอยู่ทั่วไป
รวมทั้งตามร้านจำหน่ายวัตถุดิบเพื่อนำไปประกอบอาหารเจ
และซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลอดจนห้างสรรพสินค้าต่างๆ
เนื่องจากผู้ที่ตั้งใจจะบริโภคอาหารเจจะเริ่มซื้อของเตรียมไว้บริโภคตั้งแต่ช่วงวันที่
6-7 ตุลาคม
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าในปี
2550
มูลค่าตลาดอาหารเจทั่วประเทศประมาณ
6,000
ล้านบาท
เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้วเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ
10.0
โดยเป็นมูลค่าตลาดอาหารเจในกรุงเทพฯประมาณ
2,000
ล้านบาท
สาเหตุที่คนไทยตั้งใจจะรับประทานอาหารเจมากขึ้น
เนื่องจากถือว่าการทำบุญล้างกายและล้างใจ
รวมทั้งตั้งใจกินเจเพื่อบำเพ็ญกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระชนมายุครบ
80 พรรษาในวันที่ 5
ธันวาคม 2550
นอกจากนี้ประเด็นสำคัญคือ
ความเชื่อว่าการกินเจช่วยทำให้สุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง
รวมทั้งการรับประทานอาหารเจในปัจจุบันไม่ได้ยากลำบากเหมือนกับเมื่อก่อน เนื่องจากมีธุรกิจหลายแขนงผลิตสินค้าขึ้นมาสนองความต้องการของคนที่รับประทานอาหารเจ
ซึ่งสามารถเลือกรับประทานได้ตลอดทั้งปี
และยอดจำหน่ายของสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ
นอกจากนี้ยังมีกระแสการรักษาสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง
เช่น มังสวิรัติ แม็คโครไบโอติก ชีวจิต เป็นต้น