Institute of Trade Strategies (สถาบันยุทธศาสตร์การค้า)

หอการค้าไทย

 

หน้าหลัก แนะนำสถาบัน

ความร่วมมือระหว่างประเทศ

การศึกษายุทธศาสตร์และผลงานวิจัย

บทความ ข้อมูลรายสินค้า
 
 

ทิศทางเศรษฐกิจไทยภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

โดย ดร. สุเมธ  ตันติเวชกุล

สรุปหลักแนวคิด

เศรษฐกิจพอเพียง

 
Trade Mission
ราชอาณาจักรบาห์เรน
สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
รัฐสุลต่านโอมาน

ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย

วัฒนธรรมชาวอาหรับ

Do's and DON'Ts in Arabian Society

The Smiling Military Intervention

 

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

 

 

.

     หอการค้าและสมาคมการค้า

หอการค้าไทย
หอการค้าจังหวัด
หอการค้าต่างประเทศในไทย
หอการค้าทั่วโลก
สมาคมการค้า

     หน่วยงานราชการ

กระทรวง
องศ์กรอิสระ

   สถาบันการเงิน

 

ธนาคาร

    สถาบันการลงทุน

สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI

   สื่อสิ่งพิมพ์

หนังสือพิมพ์
นิตยสาร วารสาร

   สื่อออกอากาศ

สถานีโทรทัศน์
สถานีวิทยุ

ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค
ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์
ศูนย์ประชุมนานาชาติ BITEC

   เว็บไซต์อื่น ๆ

เอแบคโพลล์
สวนดุสิดโพลล์
     หอการค้าไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
     มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย    
     ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
    

     Thailand  development  Research  Institute (TDRI)

     มูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย
     สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
     สำนักงานสถิติแห่งชาติ
     สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (สคพ.) หรือ International Institute for Trade and Development (ITD)
     World Trade Orgainzition (WTO)
     International Trade Centre (UNCTAD/WTO)
     United Nations Conference on Trade and Development (UNCTAD)
 

ความสำคัญของ.....จีน

 
 

  

      การประชุมผู้นำ กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปก) ที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่าง 17 -19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กล่าวได้ว่า จีนเป็นประเทศ ที่ค่อนข้างจะมีบทบาทสำคัญในครั้งนี้ แม้นายหู จิ่น เทา ประธานาธิบดีจีน จะไม่ใช่ผู้นำที่สำคัญที่สุดในงาน แต่ก็ถือได้ว่ามีความสำคัญโดยเฉพาะกับสหรัฐ ที่ผู้นำหลายประเทศทั้ง รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ต้องเดินทางไปขอเข้าพบหารือกับประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ณ โรงแรมที่พัก แต่สำหรับผู้นำจีน บุช เดินทางไปพบ หู ถึงโรงแรมที่พักเอง

     เหตุผลง่ายๆ เป็นเพราะว่า จีน ไม่ได้เป็นแค่พันธมิตรคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐ และหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกเท่านั้น แต่จีนยังต้องการเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางการเมืองและความมั่นคงของโลกด้วย

     หากวิเคราะห์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะนี้ จะพบว่า 70% มาจากสหรัฐอเมริกาและจีน แต่เศรษฐกิจของสหรัฐกำลังชะลอตัวลงตามวัฏจักรของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ และยังมีปัญหาขาดดุลการค้า และขาดดุลงบประมาณอีกจำนวนมหาศาล เทียบกับจีนเศรษฐกิจกำลังเติบโต ตัวเลขทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลจีนคาดการณ์จะขยายตัวในระดับเกิน 10% ต่อปี และเชื่อว่าคนอเมริกันจะยังคงสนใจบริโภคสินค้าจีนอยู่

     ปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจจีนและสหรัฐนั้นเกี่ยวพันกับอยู่มาก ตัวอย่างเห็นได้จาก ห้างค้าปลีก วอล-มาร์ท จ้างจีนผลิตสินค้าราคาถูกไปขายให้คนอเมริกันชั้นกลาง ยังไม่รวมอุตสาหกรรมอื่นๆ ขณะเดียวกันโรงงานจีนที่ผลิตสินค้าให้กับบริษัทสหรัฐ ก็มีการสร้างงานให้กับคนจีนระดับกลางและล่างได้มีงานทำด้วย

    คนส่วนใหญ่ เชื่อว่า ในศตวรรษหน้า จีนจะขึ้นมาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งของโลกแทนสหรัฐ ดูจากตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 10.4% ต่อปี ภาคอุตสาหกรรมการผลิตขยายตัว 16.1% และมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 20% ของทุนสำรองทั่วโลก

     ขณะเดียวกัน มีบางคนกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัว แต่หลายคนก็ออกมาค้านว่า เป็นเพราะกลัวกันมากเกินไป หรือถึงแม้ว่าจีดีพีจีนจะขยายตัวแค่ 7-8% ก็ไม่มีใครคิดว่าคนจีนจะหยุดผ่อนรถ ผ่อนบ้าน หรือ ถ้าจีดีพีจีนจะขยายตัวแค่ 5% เทียบกันแล้ว ก็ยังสูงกว่าในสหรัฐ สหภาพยุโรป ฯลฯ และเชื่อว่า จีนจะยังเป็นประเทศที่บริโภคทรัพยากรธรรมชาติรายใหญ่ของโลกอยู่ โดยเฉพาะสัดส่วนการบริโภคในประเทศ กว่า 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าคนจีนมีการใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นในระดับ 10% หรือขยายตัวเร็วที่สุดในโลก ขณะที่การออมของครัวเรือนจีนในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมาลดลงจาก 20% ลงมาที่ 16% ของจีดีพี

     เหตุที่ การบริโภคของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่อัตราการออมยังคงสูง เกือบถึง 50% เป็นเพราะบริษัทจีนมีการสะสมเงินจากผลกำไรกันมากขึ้น

    นอกจากนี้ ตัวเลขภาระหนี้ครัวเรือนของคนจีนในปัจจุบันก็ยังอยู่ในระดับต่ำมาก เทียบกับประเทศพัฒนาแล้วในเอเชีย โดยผู้บริโภคจีนมีภาระหนี้คิดเป็นสัดส่วนเพียง 12% ของจีดีพี ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับ มาเลเซีย อยู่ที่ระดับ 45% ของจีดีพี สิงคโปร์ 48% ฮ่องกง 57% ไต้หวัน 59% เกาหลีใต้ 62% เป็นต้น และคาดว่า ทันทีที่จีนเปิดให้บริการ ระบบธนาคารเต็มรูปแบบ รวมถึงบริการด้านสินเชื่อ จะกระตุ้นให้การบริโภคในจีนยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นในอนาคต

    ซึ่งตอนนี้มีสถาบันการเงิน และธนาคารพาณิชย์ต่างชาติ กว่า 10 รายเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นในธนาคารพาณิชย์จีน เพื่อเปิดให้บริการระบบธนาคาร รวมทั้งสินเชื่อและบัตรเครดิต ขณะที่บริษัทต่างชาติอีกจำนวนมากก็กำลังรอเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของจีน เพื่อดึงดูผู้บริโภคจีนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น เหตุผลเท่านี้น่าจะสะท้อนให้เห็นได้ว่า ทำไมจีน จึงมีความสำคัญกับทั่วโลกในขณะนี้

 

 
 

ย้อนกลับ

 
 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 

 ฉบับที่ 2169   26 พ.ย.  - 29 พ.ย. 2549

 

 

 

 

 

หน้าหลัก    แนะนำสถาบัน    การศึกษายุทธศาสตร์และผลงานวิจัย    ข้อมูลรายสินค้า   แผนผังเว็บไซต์    ติดต่อสถาบัน    สำหรับเจ้าหน้าที่

 

สถาบันยุทธศาสตร์การค้า

อาคาร 20 ชั้น 5 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  ถนนวิภาวดีรังสิต  ดินแดง กรุงเทพฯ 10400

โทรศัพท์ 02-692-3162-3 โทรสาร 02-692-3161

E-mail: [email protected]  

 Last updated: 05-Feb-2008.