ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ได้ประเมินแนวโน้มภาวะธุรกิจอุตสาหกรรม 52 ประเภทในปี 2550
โดยใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาตัวแปรที่สำคัญในการเลือกธุรกิจที่จะนำมาศึกษาวิจัยและกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะจัดกลุ่มธุรกิจนั้นเข้าอยู่ในกลุ่มใด
ซึ่งตัวแปรหลักสำคัญที่จะใช้ในการประเมินสภาพธุรกิจสำหรับปี
2550 มีหลักเกณฑ์และแนวทางการจัดกลุ่มธุรกิจ ดังนี้
หลักเกณฑ์การเลือกธุรกิจเพื่อการศึกษาวิจัย
ประกอบด้วย
1.
เป็นธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญต่อการส่งออกและสร้างรายได้ให้ประเทศ
2.
เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตต่อเนื่องไปในอนาคต
3.
เป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวม
4.
เป็นธุรกิจที่กำลังอยู่ในความสนใจของนักลงทุน และของประชาชน
5.
เป็นธุรกิจที่มีข้อมูลด้านต่างๆมากเพียงพอที่จะนำมาวิเคราะห์-วิจัย
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดกลุ่มธุรกิจในส่วนนี้ได้กำหนดตัวแปรหลักสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณาไว้
4 ด้านด้วยกัน ครอบคลุมด้านการผลิต ด้านการตลาด(การขาย)
ด้านการพัฒนาและด้านที่เกี่ยวกับปัญหาต่างๆที่ธุรกิจนั้นๆเผชิญอยู่
โดยในแต่ละด้านจะมีตัวแปรประกอบการพิจารณาในรายละเอียดครอบคลุมประเด็นหลักสำคัญ
ดังต่อไปนี้
ด้านการผลิต
ประกอบด้วยตัวแปร
กำลังการผลิต การใช้อัตรากำลังการผลิต
อัตราการขยายตัวของกาผลิต-การจำหน่าย ความพร้อมด้านวัตถุดิบ
การพึ่งพาวัตถุดิบจากในประเทศและ/หรือจากต่างประเทศ
คุณภาพวัตถุดิบ และราคาวัตถุดิบรวมทั้งต้นทุน-คุณภาพของแรงงาน
และจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจ
ด้านการตลาด(การขาย)
ประกอบด้วยตัวแปรต่อไปนี้
1.1) ตลาดในประเทศ ได้แก่
ยอดขาย อัตราการเติบโตของยอดขาย
และสถานการณ์การแข่งขันในแต่ละช่วงเวลา
1.2)
ตลาดต่างประเทศ ได้แก่มูลค่าการส่งออก
อัตราการเติบโตของมูลค่าการส่งออกและส่วนแบ่งในตลาดสำคัญ
เปรียบเทียบกับคู่แข่งในแต่ละช่วงเวลา
ด้านการพัฒนา
ประกอบด้วย
คุณภาพสินค้า รูปแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์
โอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
โอกาสการขยายตัวของการผลิตและการขายในอนาคต
รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการตลาด
ด้านปัญหาธุรกิจ
ประกอบด้วย นโยบาย/มาตรการภาครัฐทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การกีดกันทางการค้า การเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ
เศรษฐกิจโลก เศราฐกิจประเทศคู่ค้า สถานการณ์ด้านการเงิน/สินเชื่อ
การขยายเครือข่ายธุรกิจ
โอกาสและอุปสรรคต่อการเข้ามาของธุรกิจรายใหม่
รวมตลอดถึงจุดอ่อน-จุดแข็งภายในของธุรกิจนั้นๆ
โดยผลการประเมินภาวะธุรกิจในปี 2550 ปรากฎดังนี้
ภาวะอุตสาหกรรมปี 2550
|
ประเภทธุรกิจ
|
คะแนนที่ได้จากการประเมิน
|
กลุ่มที่ 1 :
ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต
|
1) ธุรกิจสปาหรู
|
3.800
|
2) รถยนต์และชิ้นส่วน
|
3.750
|
3) อินเทอร์เน็ต
|
3.710
|
4)
เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
|
3.705
|
5) สินค้าไอที
|
3.700
|
6) ผลิตภัณฑ์สมุนไพร
|
3.700
|
7) นมและผลิตภัณฑ์
|
3.700
|
8) โรงพยาบาลเอกชน
|
3.700
|
9) นมถั่วเหลือง
|
3.700
|
กลุ่มที่ 2 :
ธุรกิจที่อยู่ในภาวะทรงตัว
|
1) ธุรกิจก่อสร้าง
|
3.525
|
2) สิ่งปรุงรสอาหาร
|
3.500
|
3)
ธุรกิจทัวร์เอาท์บาวด์
|
3.500
|
4)
อาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูป
|
3.500
|
5)
ธุรกิจรับปลูกสร้างที่อยู่อาศัย
|
3.475
|
6) เยื่อกระดาษ
|
3.450
|
7)
ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์
|
3.400
|
8) ข้าว
|
3.400
|
9) น้ำผัก-ผลไม้
|
3.400
|
10) ธุรกิจโรงแรมระดับ
4-5 ดาว
|
3.325
|
11) อาคารชุดพักอาศัย
|
3.320
|
12)
ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
|
3.300
|
13)
อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป
|
3.300
|
14)
รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน
|
3.290
|
15) ปูนซีเมนต์
|
3.250
|
16)
ธุรกิจทัวร์อินบาวด์
|
3.250
|
17) โรงภาพยนตร์
|
3.250
|
18) ผลิตภัณฑ์ข้าว
|
3.200
|
19) ธุรกิจทัวร์ทางน้ำ
|
3.200
|
20) อ้อยและน้ำตาล
|
3.180
|
21)
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
|
3.150
|
22) ธุรกิจบ้านจัดสรร
|
3.150
|
23)
อัญมณีและเครื่องประดับ
|
3.138
|
24) ยางพารา
|
3.100
|
25) ปิโตรเคมี
|
3.100
|
26) ธุรกิจโฆษณา
|
3.000
|
27) โทรศัพท์เคลื่อนที่
|
3.000
|
28) ผลิตภัณฑ์เซรามิก
|
2.960
|
29) ผลิตภัณฑ์พลาสติก
|
2.890
|
30) ของเด็กเล่น
|
2.863
|
31)
เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน
|
2.825
|
32) ธุรกิจสนามกอล์ฟ
|
2.813
|
33) กุ้งและผลิตภัณฑ์
|
2.800
|
34)
ธุรกิจเซอร์วิสอพารต์เมนท์
|
2.800
|
35) ธุรกิจค้าปลีก
|
2.775
|
36)
เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัว
เครื่องประดับตกแต่งบ้าน
|
2.750
|
37) ผลิตภัณฑ์ยาง
|
2.700
|
38) เครื่องใช้ไฟฟ้า
|
2.475
|
กลุ่มที่ 3 :
ธุรกิจพึงระวัง
|
1) เสื้อผ้าสำเร็จรูป
|
2.300
|
2)
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
|
2.300
|
3)
ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง
|
2.300
|
4) ไก่แปรรูป
|
2.200
|
5) สถานีบริการน้ำมัน
|
2.150
|
ที่มา : บริษัท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด
--------------------------------------
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป
โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ
มิอาจรับรองความถูกต้องหรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด
บริษัทฯ
อาจมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงข้อมูลได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ปัจจุบัน
ทั้งนี้ผู้อ่านจะพึงพิจารณาข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณของตนเอง
โดยบริษัทฯ
ไม่ต้องรับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว
ดังนั้น
ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ
ย้อนกลับ::: |