ทิศทางเศรษฐกิจไทยภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โดย ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล |
| |
เหตุวินาศกรรม 31 ธ.ค. 49. ... ผลในเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2550 |
|
แม้ว่าตลาดหุ้นไทยและค่าเงินบาทจะได้อ่อนตัวลงตอบสนองต่อเหตุวินาศกรรมที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครในวันที่
31 ธ.ค. 49 ที่ผ่านมา แต่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ณ ขณะนี้
ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2550
ไว้ที่ร้อยละ 4.0-5.0 เทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปี 2549
แต่ก็มีความโน้มเอียงไปในเชิงลบ (Negative Bias) ต่อการบริโภค
และการลงทุนในประเทศ
อันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นจากเหตุวินาศกรรมดังกล่าว
โดยระดับของผลกระทบที่จะมีต่อภาวะการใช้จ่ายในประเทศนั้น
ย่อมจะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าในการดำเนินการสอบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดของทางการ
รวมทั้งความนิ่งของเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศ อย่างไรก็ตาม
อาจจะกล่าวได้ว่า
ธุรกิจที่น่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะความไม่เชื่อมั่นดังกล่าวคงได้แก่
ธุรกิจเพื่อการบริโภคต่าง ๆ
ที่ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์การค้าและใกล้เคียง ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่อาจถูกกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวนั้น
ก็ย่อมจะส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจโรงแรม รวมทั้งต่อธุรกิจอื่น ๆ
ที่พึ่งฐานลูกค้าต่างชาติ เช่น ธุรกิจบริการทางการแพทย์
รวมทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์
ทั้งที่เป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับสูงและโครงการนิคมอุตสาหกรรม
ในขณะเดียวกัน
สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศที่เพิ่มขึ้น
ก็อาจจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติรอดูท่าทีอยู่ภายนอกประเทศ
แทนที่จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยแม้ว่าราคาหลักทรัพย์ในตลาดจะได้ปรับตัวลดลงมาแล้วก็ตาม
ซึ่งการลดน้ำหนักการลงทุนดังกล่าวของต่างชาติย่อมจะส่งผลกระทบต่อปริมาณธุรกรรมและสภาพคล่องของตลาดโดยรวม
และอาจทำให้ตลาดทุนไทยต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้เดิมในการที่จะฟื้นตัว
ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อความมั่งคั่ง (Wealth Effect)
ของผู้บริโภคที่เป็นนักลงทุนรายย่อยในตลาดฯแล้ว
ยังอาจเป็นอุปสรรคแก่ธุรกิจไทย ที่ในปี 2550
นี้มีแผนที่จะระดมทุนผ่านตลาดทุน
ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นหรือตลาดตราสารหนี้
ประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย
|
หน่วย: % y-o-y, หรือระบุเป็นอย่างอื่น |
2549 |
2550 |
2551 |
2552 |
GDP |
5.0 |
4.0-5.0 |
5.0-6.0 |
4.5-5.5 |
การบริโภคภาคเอกชน |
3.4 |
3.5-4.5 |
5.0-6.0 |
4.5-5.5 |
การลงทุนรวม |
3.9 |
3.7-5.3 |
11.0-13.1 |
9.7 |
เอกชน |
4.5 |
5.4-6.0 |
9.5-10.8 |
7.9 |
รัฐ |
2.1 |
-1.5 ถึง +3.2 |
15.8-21.0 |
15.6 |
การส่งออก |
17.5 |
10.0-15.0 |
7.0-10.0 |
7.0-10.0 |
การนำเข้า |
7.2 |
10.0-15.0 |
7.0-10.0 |
7.0-10.0 |
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์ฯ) |
+2.5 ถึง +2.9 |
0.4 ถึง 1.9 |
-0.4 ถึง +0.6 |
-0.5 ถึง -1.0 |
ดุลบัญชีเดินสะพัด (% ต่อ GDP) |
1.2 ถึง 1.4 |
0.2 ถึง 0.8 |
-0.1 ถึง +0.2 |
-0.2 ถึง -0.4 |
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ย (ดอลลาร์ฯ) |
65.0 |
55.0-60.0 |
57.0-62.0 |
60.0-65.0 |
ค่าเงินบาท (เฉลี่ย) |
37.90 |
36.50 |
36.00 |
36.00 |
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) |
4.6 |
2.5-3.5 |
3.0-3.5 |
3.0-3.5 |
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) |
2.3 |
1.8-2.3 |
3.0-3.5 |
3.0-3.5 |
|
|
ย้อนกลับ::: |
|
|
|