1.ความสำคัญ
การค้าของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวเป็นธุรกิจต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยเป็นจำนวนมหาศาลจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพบว่าในปี
พ.ศ. 2543
และ 2544
นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศใช้จ่ายซื้อของที่ระลึกของไทยประมาณร้อยละ
34
ของค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวทั้งสิ้น
ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าปีละ
100,000 ล้านบาท
และคาดว่านักท่องเที่ยวชาวไทยเองก็ใช้จ่ายซื้อของที่ระลึกและของฝากในจำนวนไม่ต่ำกว่า
100,000 ล้านบาท เช่นกัน
ความสำคัญอีกประการหนึ่งของการค้าของที่ระลึกนักท่องเที่ยวนอกเหนือจากรายได้จำนวนมากแล้ว
ยังพบว่ารายได้ส่วนนี้เป็นส่วนของรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ตกอยู่ในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จัดการการท่องเที่ยวโดยการซื้อแพ็กเกจจากบริษัทจัดการท่องเที่ยวในต่างประเทศ (All Inclusive Vacation Package)
ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเดินทาง ค่าที่พักและบริการ อื่น ๆ ถูกจ่ายชำระในต่างประเทศ
ในขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาถึงสภาพการแข่งขันของสินค้า
Made in Thailand
ที่ส่งออกไปขายเพื่อสร้างรายได้ในต่างประเทศนั้น
ผู้ผลิตสินค้าของไทยต้องเผชิญกับสภาพการแข่งขันที่รุนแรง
ทั้งจากคู่แข่งขันที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าและจากคู่แข่งขันที่มีความสามารถด้านการตลาดสูง
มีการพัฒนา
คุณภาพและรูปแบบสินค้าจนมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นเหนือกว่า
แต่สินค้าของที่ระลึกนักท่องเที่ยว Made
in Thailand
ที่จำหน่ายในประเทศไทยกลับเป็นสินค้าที่มีความได้เปรียบในตนเองเนื่องจากลูกค้าเข้ามาซื้อหาถึงแหล่งผลิต
และยังมีความต้องการในสินค้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของไทย
เพื่อระลึกถึงประสบการณ์จากการเข้ามาเยี่ยมเยือนประเทศไทย
ซึ่งสินค้าของคู่แข่งขันประเทศอื่นใดก็ยากที่จะสร้างคุณค่าในส่วนนี้
มาเทียบเคียงกับสินค้าไทยได้
แม้ว่าโอกาสของการค้าของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวจะผันแปรไปตามสภาพการขยายตัวของการท่องเที่ยว
การขยายตัวของการค้าของที่ระลึกนักท่องเที่ยวจะเป็นไปได้มากน้อยเพียงไรขึ้นอยู่กับความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มรายได้และการสร้างกลยุทธ์ให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจและต้องการจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น
ซึ่งจะต้องอาศัยการพัฒนาอย่างเป็นองค์รวมของผู้มี
ส่วนได้เสียในอุตสาหกรรมของที่ระลึกรวมทั้งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องและสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และสถาบันต่าง ๆ
เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในอนาคตซึ่งมีความต้องการได้รับความบันเทิงและความสะดวกสบายในระดับสากลพร้อมทั้งความรู้ที่เป็นสาระเรื่องราวประสบการณ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
และความพยายามในการพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยในทางอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
โดยสนับสนุนการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ให้เป็นการท่องเที่ยวที่ก่อให้เกิดการศึกษา
การกระจายรายได้และอาชีพสู่ท้องถิ่น
บนพื้นฐานของการสร้างจิตสำนึกของการอนุรักษ์วัฒนธรรมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทิศทางของการพัฒนากลยุทธ์สำหรับสินค้าของที่ระลึกที่มีความสอดคล้องกับแนวโน้มดังกล่าว
จึงควรจะมุ่งพัฒนาสินค้าของที่ระลึกประเภทหัตถกรรมที่มีคุณภาพ
มีการพัฒนาคุณภาพวัสดุในท้องถิ่น พัฒนาฝีมือแรงงาน
พร้อมทั้งการพัฒนารูปแบบและประเภทสินค้าที่สอดคล้องกับเรื่องราวสาระที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น
ตลอดจน การสร้างกระบวนการถ่ายทอดความรู้
สร้างความสะดวกสบายในการซื้อและการส่งมอบสินค้าให้แก่
นักท่องเที่ยวให้ครบวงจร โดยอาศัยความรู้
ความเข้าใจและความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ
ให้เกิดการประสานพลัง (Synergy)
ในการร่วมสร้างคุณค่าเพิ่มและยกระดับการท่องเที่ยวของไทยจากการเป็นการท่องเที่ยวในราคาถูก
(Cheap destination)
เป็นการท่องเที่ยวที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าและยั่งยืน
และนำ รายได้สู่ประเทศมากขึ้น
สถาบันยุทธศาสตร์การค้า
ได้ดำเนินการศึกษายุทธศาสตร์การค้าของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว
โดยจะเสร็จสิ้นการศึกษาในเดือนกรกฎาคม 2547
2.
วัตถุประสงค์
เพื่อเสนอแนวทางในการจัดทำยุทธศาสตร์การค้าของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว
:
กรณีศึกษาสินค้าหัตถกรรม ในด้านการตลาด
ในประเด็นที่เกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์และการวางแสดงสินค้า
|