ที่มา นสพ.ไทยรัฐ
วันที่ 11 ม.ค. 50
นายประมนต์ สุธีวงศ์
ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
เปิดเผยภายหลังการหารือกับตัวแทนหอการค้าต่างประเทศจากสหรัฐฯ
ญี่ปุ่น เยอรมนี ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์
กรณีเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 49 ว่า
การระเบิดที่เกิดขึ้นไม่สร้างความตกใจในระดับนักธุรกิจ
แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่รัฐบาลบางประเทศจะแสดงความเป็นห่วงนักท่องเที่ยวของตนที่เดินทางมาไทยจึงประกาศเตือนนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม
ที่ประชุมยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้พฤติกรรมประกอบธุรกิจ
และพฤติกรรมของประชาชนเปลี่ยนไป
โดยผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญและลงทุนเรื่องการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
ทั้งนี้
เพื่อเรียกความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจการค้า
การลงทุน
รัฐควรจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจากประเทศที่มีประสบการณ์ลักษณะนี้มาแนะนำการระวังเหตุร้ายอย่างถูกต้อง
และไม่ทำให้การรักษาความปลอดภัยกลายเป็นอุปสรรค
โดยหอการค้าต่างประเทศได้เสนอให้รัฐบาลและเอกชนไทยตื่นตัวกับการป้องกันเหตุการณ์รุนแรงรวมทั้งรณรงค์ให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญในการป้องกัน
“เชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศที่มีประสบการณ์ในการป้องกันเหตุรุนแรงเข้ามาให้ความรู้แก่รัฐบาลและภาคเอกชนในการป้องกันความปลอดภัยและให้ใช้มาตรการป้องกัน
ความปลอดภัยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
โดยจะต้องเข้มงวดในสถานที่สำคัญที่มีชาวต่างชาติและประชาชนจำนวนมากแบบเอาจริงเอาจัง
เริ่มต้นที่สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ สนามบิน ห้างสรรพสินค้า
ที่พักโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
โดยเฉพาะที่สนามบินซึ่งต่างชาติบอกว่าบางประตูที่ควรเปิดก็ปิดทำให้ไม่สะดวกสบาย
และบางประตูควรปิดก็ไม่มีการดูแลความปลอดภัย” นายประมนต์กล่าว
นอกจากนี้
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยก็จะได้ทำหนังสือถึงสมาชิกราว 20,000 ราย
ให้รับทราบและร่วมกันรณรงค์ให้ประชาชนทราบ
และให้ป้องกันตนเองได้โดยไม่ให้รอการช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว
|