รัฐบาลบราซิลเปิดแผนการที่จะทำให้พลเมืองจำนวนหลายล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน
จากสำนักข่าว BBC News

รัฐบาลบราซิลได้เปิดโครงการสวัสดิการทางสังคมเพื่อที่จะทำให้พลเมืองจำนวนหลายล้านหลุดพ้นจากความยากจนข้นแค้น(extreme poverty) ก่อนปี พ.ศ. 2557(ค.ศ. 2014) ซึ่งประธานาธิบดีดิลมา รุสเซฟฟ์ เรียกว่า นี่คือสิ่งสำคัญมากของคณะรัฐบาลของเธอ

โครงการที่จะดำเนินนี้มีความมุ่งหมายที่สร้างมาจากพื้นฐานของโครงการปัจจุบัน โดยจะทำให้ ประชาชนอีก 20 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนในทศวรรษที่ผ่านมา

การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศบราซิลได้นำยกระดับมาตราฐานของการดำรงชีพโดยรวม

แต่ประชาชนอีก 16 ล้านยังคงอยู่ในสภาพความยากจนข้นแค้น ประมาน 70 เรอัล (44 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 27 ปอนด์อังกฤษ) หรือ ต่ำกว่าจำนวนดังกล่าวนั้นต่อเดือน

"ประเทศที่มีการเติบโตเหมือนประเทศบราซิล จะไม่สามารถอยู่ได้ใน ด้วยการมีโครงการทางสังคมที่มีขนาดใหญ่โครงการเดียว ดั่งเช่นโครงการสวัสดิการเพื่อครอบครัว (Family Grant)" รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคม นางเทเรซ่า แคมเพลโล(Tereza Campello) กล่าวกับ BBC Brasil

สิ่งนี้ได้กล่าวอ้างถึง โครงการโอนเงินสด โดยการจ่าย 242 เรอัล ต่อเดือน ซึ่งโดยปกติแล้ว จะเหมาะสมกับ ผู้เป็นแม่ที่ต้องพึ่งพารายได้ของพวกเขาเอง และ มีลูกจำนวนมาก

ในทางกลับกัน พวกเขาต้องทำให้แน่ใจว่า ลูกของเขา จะได้เข้าโรงเรียน และ ได้รับการฉีดวัคซีน

ค่าครองชีพ

ความมุ่งหมายของโครงการบราซิลปลอดความยากจน หรือ Brasil Sem Miseria (Brazil Without Poverty) ได้ขยายแผนของโครงการสวัสดิการเพื่อครอบครัว หรือ Bolsa Familia ดั่งเช่น โครงการสุขภาพ และ การศึกษา และ พุ่งเน้นไปที่การนำเงินจำนวนที่มากขึ้นไหลสู่ภูมิภาคที่มีความยากจนมากที่สุด

รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคม นางเทเรซ่า แคมเพลโล(Tereza Campello)กล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักที่จะทำให้แน่ใจว่า คนที่ยากจนที่สุดจะมีหนทางไปยังโครงการเหล่านี้

"และ สำหรับสิ่งที่พวกเราต้องการคือ เปลี่ยนความคิดที่จะทำให้ คนที่ยากจนที่สุดมายังประเทศของเรา และทำให้แน่ใจว่า ประเทศของเรา ก็สามารถเข้าถึงกลุ่มคนยากจนเหล่านั้นได้เช่นกัน "

โรซินไนด์ ลิมา ดา ซิลวา (Rosineide Lima da Silva) เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในตำบลที่ยากจน กับ ลูกของเธอ 3 คน ณ บริเวณนอกเมืองของกรุงบราซิลเลีย(Brasilia) กล่าวว่า พยายามแต่ล้มเหลวที่จะเซ็นสัญญาเพื่อผลประโยชน์ดั่งกล่าว

โรซินไนด์ ลิมา ดา ซิลวา (Rosineide Lima da Silva) กล่าวว่า "ฉันเองไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และ สิ่งของต่างๆ ก็ขึ้นราคาทุกๆ เดือน " เธอผู้นี้ เป็นคนที่ทำให้ครอบครัวมีรายได้ 250 เรอัลต่อเดือน จากการที่เธอทำอาชีพคนทาเล็บ

จากข้อมูลสำมะโนครัวประจำปี พ.ศ. 2553 ประชาชนประมาณ 16.2 ล้านคน หรือ 8.5% ของประชากรทั้งประเทศ ได้รับการยืนยันว่า ยังอยู่ภายใต้ความยากจนข้นแค้น

จากจำนวนดังกล่าวนี้ 59% อาศัยอยู่ที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล ในประวัติศาสตร์นั้น ถือว่า เป็นภูมิภาคที่ยากจนที่สุดของประเทศ

รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคม นางเทเรซ่า แคมเพลโล(Tereza Campello) กล่าวว่า "พวกเราต้องการกำจัดความยากจนค้นแข้นก่อนปีพ.ศ. 2553 และทำให้ประเทศบราซิลเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาประเทศแรกที่ประสบความสำเร็จของ เป้าหมายอันดับที่ 1 ของเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษแห่งสหประชาชาติ( the UN's Millennium Development Goals)"

หมายเหตุ เป้าหมายอันดับที่ 1 ของเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษแห่งสหประชาชาติ( the UN's Millennium Development Goals)" นั่นคือ การกำจัดความยากจนค้นแข้น