SMEหันพึ่งโรงตึ๊งพุ่ง80%ธปท.รับร้องทุกข์
พิษเศรษฐกิจทรุด เอสเอ็มอีกู้เงินแบงก์ยาก หันพึ่งโรงตึ๊งพุ่ง 70-80% ส่วนลูกค้าทั่วไปกว่า 60% ปล่อยหลุดจำนำ ธปท.เปิดศูนย์รับร้องเรียนธนาคารปฏิเสธสินเชื่อ บริษัทเจ๊ง เม.ย.ลดฮวบ 21%
นายสิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด ผู้ดำเนินกิจการโรงรับจำนำ "อีซี่ มันนี่" เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ยอดการเข้ารับบริการจำนำในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเติบโต 60-70% นอกจากนั้นพบว่า มีลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ใช้โรงจำนำเป็นแหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้น 70-80% เทียบระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินจากธนาคารพาณิชย์ยากมากขึ้น
โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ากว่า 380,000 ราย เป็นวงเงินหมุนเวียนที่ให้บริการกว่า 4,600 ล้านบาท โดยล่าสุด บริษัทขอรับการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทยวงเงิน 800 ล้านบาท เพื่อใช้หมุนเวียนในธุรกิจ
"ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของเอสเอ็มอีจากแบงก์ทำได้ยากขึ้น เพราะแบงก์กลัวเสี่ยงเรื่องหนี้เสีย และลูกค้าได้รับดอกเบี้ยที่แพง ดังนั้น โรงรับจำนำจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคิดดอกเบี้ยต่ำเพียง 1.25% ต่อเดือน หรือ 15% ต่อปี" นายสิทธิวิชญ์ ระบุ
อย่างไรก็ดี ช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ลูกค้าทิ้งหลักทรัพย์จำนำเพิ่มขึ้น 60-70% เทียบกับช่วงปกติ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและทองคำมากที่สุด
นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ธปท.ได้เปิดศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาการปล่อยสินเชื่อ เพื่อให้ประชาชนแจ้งปัญหาเกี่ยวกับการใช้บริการของธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะการให้สินเชื่อและปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ ธปท.รับทราบข้อมูลและประสานงานกับธนาคารพาณิชย์เพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าว
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ต้องให้เวลาธนาคารพาณิชย์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพราะ ธปท.เพิ่งเรียกมาหารือเพื่อขอความร่วมมือไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
ด้านกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า บริษัทตั้งใหม่เดือน เม.ย.52 มี 2,522 ราย ลดลง 673 ราย หรือ 21.06% ทุนจดทะเบียน 12,483.50 ล้านบาท ส่วนบริษัทที่เลิกกิจการมี 819 ราย ลดลง 40 ราย หรือ 4.46% ทุนจดทะเบียน 7,413.08 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 19 พฤษภาคม 2552
|