แจงSMEs ปี 51 สาหัส! จี้รัฐบาลใหม่กู้วิกฤตส่งออกด่วน

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยถึงทิศทางของ SMEs ในปีหน้า (2551) ว่า รัฐบาลใหม่น่าจะให้ความสำคัญกับ SMEsมากขึ้น โดยมีแผนผลักดันให้ SMEs มีสัดส่วนรายได้ประชาชาติ หรือ GDP เพิ่มขึ้น จากเดิมGDP ของ SMEs อยู่ที่ 40% โดยวางเป้าหมายเพิ่มเป็น 42% ในปี หน้า และเกิดผู้ประกอบการใหม่ 40,000 รายต่อปี อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายยอมรับว่า ปัจจุบันมีปัจจัยลบกระทบ SMEs หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาซบเชา ภาวะความไม่สมดุลของการเงินโลก ภาวะน้ำมันแพง และปัจจัยเงินเฟ้อ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ จะกระทบส่งออกมากขึ้นในปีหน้า โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งพึ่งพาการส่งออกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นหลัก และสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกหลัก ผลกระทบจะทำให้ยอดส่งออกของไทย ลดลงประมาณ 15-20% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ กลุ่ม SMEs ที่ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งบ้านและในกลุ่มอาหาร

ดังนั้น แนวทางการรับมือกับปัญหาต่างๆ ในปี 2551 เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ จะต้องกระตุ้นการลงทุน สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน กระตุ้นการบริโภคในประเทศ และเพิ่มงานให้กับ SMEs ภายในประเทศ ส่วน SMEs ในภาคการส่งออกต้องเร่งหาตลาดใหม่ และขยายตลาดไปในประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากยังมีโอกาสอีกมากหลังมีการเปิดเสรีทางการค้า ( เอฟทีเอ) ซึ่งที่ผ่านมา ส.อ.ท. ใช้โครงการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ช่วยSMEs หาตลาดใหม่ หาพันธมิตรการค้า โดยในส่วนของปัญหาพลังงาน ซึ่งมีผลต่อต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ถือเป็นจุดอ่อนสำคัญของSMEs เพราะมีต้นทุนสูงถึง 19% เป็นเรืองเร่งด่วนต้องแก้ไข โดย ส.อ.ท. ได้ดำเนินโครงการพัฒนาขีดความสามารถ SMEs ด้านโลจิสติกส์ โดยเพิ่มทักษะด้านโลจิสติกส์ให้SMEs จำนวน 1,400 รายในทุกภูมิภาค

                                                                             ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2550

ดาวน์โหลด PDF