ค้นหา
ห้องข่าว

ต้นกล้าอาชีพประสานแบงก์รัฐ หนุนเกิดเอสเอ็มอีย่อยบ้านเกิด

ประธานโครงการต้นกล้าอาชีพ ประสานธนาคารรัฐ เพื่อผลักดันแรงงานเข้าร่วมโครงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำไปทำธุรกิจขนาดเล็กที่บ้านเกิด ส่วนความคืบหน้างโครงการประชาชนยังให้ความสนใจน้อย โดยผู้ผ่านการอบรมเดือนเม.ย.-พ.ค. จำนวน 55,000 คน กลับบ้านเกิดเพียง 30%
       

       นายกนก วงษ์ตระหง่าน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการดำเนินโครงการต้นกล้าอาชีพ เปิดเผยว่า โครงการต้นกล้าอาชีพ อยู่ระหว่างประสานงานกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดงานมหกรรมต้นกล้าอาชีพ เพื่อส่งเสริมให้แรงงานที่ได้รับการฝึกอบรมจากโครงการต้นกล้าอาชีพ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปประกอบอาชีพ รองรับแรงงานที่ต้องการกลับไปประกอบอาชีพหรือทำธุรกิจขนาดเล็กที่ภูมิลำเนาของตนเอง หรือต้องการมีอาชีพเป็นของตนเอง นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นความสนใจของประชาชนต่อโครงการต้นกล้าอาชีพอีกทางหนึ่ง
       
       “ที่ผ่านมาโครงการนี้ยังได้รับความสนใจจากประชาชนค่อนข้างน้อย ทั้งที่เป็นโครงการที่ดีและได้ประโยชน์กับระบบเศรษฐกิจ และมั่นใจว่าโครงการ ระยะที่ 1 ที่ได้รับงบประมาณ 6,900 ล้านบาท จะจัดฝึกอบรมแรงงานกว่า 300,000 คน ภายในเดือน ก.ย. นี้ จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายเพียง 240,000 คน และคาดว่าจะมีแรงงานที่มีงานทำต่อเนื่อง 120,000-150,000” นายกนก กล่าว
       
       นายกนก ยอมรับว่า จากจำนวนผู้ที่จบการอบรมในโครงการต้นกล้าอาชีพ ในเดือน เม.ย.-พ.ค. จำนวน 55,000 คน พบว่ามีแรงงานที่ต้องการกลับภูมิลำเนาประมาณ 30% หรือจำนวน 15,850 คน ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามว่าแรงงานเหล่านี้สามารถประกอบอาชีพของตนเองและมีงานทำ ตามเป้าหมายของรัฐบาลเพียงใด เพราะแรงงานเหล่านี้ถือเป็นแรงงานที่มีทักษะและมีส่วนช่วย ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศในระดับฐานราก เพราะมีความรู้และทักษะในการเพิ่มผลิตภาพของผลผลิต
       
       นายกนก กล่าวว่า โครงการต้นกล้า ระยะที่ 2 ที่ได้รับเงินงบประมาณ 7,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายว่าจะฝึกอบรมแรงงานได้ 260,000 คนนั้น คงต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในปี 53 น่าจะดีขึ้น และทำให้แรงงานกลับมามีงานทำมากขึ้นกว่าปีนี้ จึงต้องพิจารณาว่าโครงการต้นกล้าอาชีพต้องปรับแผนหรือมีแนวทางอย่างไรต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น

                                                                ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 15 มิถุนายน 2552


 

 



ศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัวและ SMEs ( Family Business & SMEs Study Center ) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตึก 7 ชั้น 12
เบอร์โทรศัพท์ 0-2-697-6351-2 โทรสาร 0-2697-6350