ธุรกิจสปาไทยไปถึงฝั่งฝัน ขึ้นแท่นศูนย์กลางซื้อ ขายระดับโลก

อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ชี้ ธุรกิจสปาไทย ได้รับการยอมรับเชื่อถือ จนได้ขึ้นแท่นเป็นศูนย์กลางซื้อขายระดับนานาชาติ ส่งผลให้สามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยธุรกิจสินค้าด้านสุขภาพ และสปา ปี 51ที่ผ่านมาทำรายได้ถึงกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้ สปาน่าจะทำรายได้ถึงกว่า 15,000 ล้านบาท
       
       นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวถึงการจัดงานแสดงสินค้าธุรกิจบริการสุขภาพและความงาม 2552 หรือ Thailand Health & Beauty Show 2009 (THAILAND HBS 2009) ครั้งที่ 11 ว่า ธุรกิจบริการสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะธุรกิจสปาไทยกลายเป็นศูนย์กลางเบ็ดเสร็จระหว่างผู้ซื้อผู้นำเข้าในธุรกิจส่งเสริมสุขภาพทั้งด้านสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจนี้ของไทยให้ตลาดต่างประเทศเชื่อถือยอมรับ จนสามารถขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น
       
       นายราเชนทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริการสุขภาพของไทยมีความแข็งแกร่ง มีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการรักษา พยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 ต่อปี โดยปีที่ผ่านมามีมูลค่าธุรกิจรวม 107,419 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว 108,197 ล้านบาท ตลาดหลักได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ ยุโรป ตะวันออกกลาง อาเซียน และเอเชียใต้ สำหรับตลาดใหม่ที่มีอัตราขยายตัวสูง ได้แก่ รัสเซีย ยุโรปตะวันออก ยุโรปใต้ ยุโรปกลางและแคนาดา โดยมีประเทศคู่แข่งที่ประกาศตัวเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลอาทิ อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ตะวันออกกลาง ด้านธุรกิจสินค้าสุขภาพ อาหาร เครื่องสำอางไทย ก็สามารถเติบโตและขยายตัวได้ในทิศทางเดียวกัน ส่วนธุรกิจสปาไทย ปี 2551 มีผู้เข้ามารับบริการกว่า 4 ล้านคน นำรายได้สู่ประเทศประมาณ 14,875 ล้านบาท โดยร้อยละ 80 หรือประมาณ 3.2 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติ ปีนี้ คาดว่าธุรกิจสปา น่าจะสามารถทำรายได้เข้าประเทศเป็นเงิน 15,000 ล้านบาท โดยตลาดหลักที่ไทยมุ่งจะเข้าไปขยายฐานด้านธุรกิจสปาได้แก่ ยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชีย ส่วนคู่แข่งได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
       
       สำหรับการจัดงาน THAILAND HBS 2009 ได้นำเสนอศักยภาพการเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ และความงามระดับภูมิภาค ระหว่างเวลา 10.00-18.00น.โดยวันที่ 5-6 มิ.ย.นี้ เป็นวันเจรจาธุรกิจ และวันที่ 7 มิ.ย.เป็นวันจำหน่ายปลีก

                                                                 ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 5 มิถุนายน 2552