ค้นหา
ห้องข่าว

โพลชี้เอสเอ็มอีดึงสายป่านได้แค่8เดือน

"โฆสิต"แนะแบงก์จับมือเอสเอ็มอีร่วมดันแผนธุรกิจใกล้ชิด เจ้าหนี้ต้องยอมยืดหนี้ยื้อชีวิตเอกชน โพลหอการค้าชี้ ศก.ซึมยาว เอสเอ็มอีดึงเกมได้อีกแค่ 8 เดือน

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวปาฐกถาในงานเสวนาของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจเรื่อง "ทางรอดเอสเอ็มอีไทยก่อนล่มสลาย" ว่า ภาพรวมของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในขณะนี้ต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่มีความรุนแรงแตกต่างกัน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีฐานะการเงินเข้มแข็ง ฐานลูกค้าชัดเจน กลุ่มที่ได้รับผลกระทบ แต่พยายามปรับตัว โดยมีรายได้ในธุรกิจต่อเนื่อง และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ แต่สามารถบริหารต้นทุนลดลงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

นายโฆสิตกล่าวว่า แนวทางแก้ปัญหาของเอสเอ็มอีขณะนี้ สถาบันการเงินต้องทำงานร่วมกับเอสเอ็มอีอย่างใกล้ชิด ต้องผ่อนปรนระยะเวลาการชำระหนี้ รวมทั้งต้องร่วมมือกับลูกค้าเอสเอ็มอีในการปรับโครงสร้างกิจการ เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้

นายปิยะ ซอโสตถิกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เอสเอ็มอีที่มีปัญหาควรปรึกษาธนาคารเพื่อหาทางปรับโครงหนี้ เพื่อบริหารจัดการสภาพคล่องทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารมีการปรับโครงสร้างทางการเงินให้กับลูกค้า

2-3% ของสินเชื่อ จากปกติอยู่ที่ 1% ขณะที่ในไตรมาสแรกสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งระบบติดลบ 4%

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายย่อยเริ่มปรับตัวหาสินค้าต้นทุนต่ำมาจำหน่ายเพื่อลดต้นทุน เพราะกำลังซื้อลดลง โดยเสนอให้ภาครัฐหันไปพิจารณาปรับภาษีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีรายได้สูงมากขึ้น หลังจากปรับขึ้นภาษีหลายชนิดที่กระทบต่อผู้มีรายได้น้อยไปแล้ว

นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายช่วยเหลือภาคธุรกิจท่องเที่ยวยังไม่เห็นผลในทางปฏิบัติ เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดเรื่องสถานะการเงิน ทำให้ผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่องไม่สามารถทำธุรกิจได้ หากจะให้แก้ปัญหาได้จริง ต้องเริ่มจากการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติที่แท้จริงก่อน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจเรื่องสถานภาพเอสเอ็มอีไทย ที่จัดทำร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า จากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 800 ราย จากเอสเอ็มอีทั้งระบบ 2.5 ล้านราย พบว่าประมาณ 70% ของเอสเอ็มทั้งระบบ ยอมรับว่าหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้นจะสามารถประคองธุรกิจไปได้อีกประมาณ 8 เดือน ซึ่งรัฐบาลต้องเข้ามาดูแลก่อนไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยเอสเอ็มอีประมาณ 65% ยอมรับว่ายังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ ขณะที่ 45% ของเอสเอ็มอีเห็นว่ายังมีปัญหาจากการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเนื่องจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อและหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่พอ

                                                                  ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 4 มิถุนายน 2552


 

 



ศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัวและ SMEs ( Family Business & SMEs Study Center ) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตึก 7 ชั้น 12
เบอร์โทรศัพท์ 0-2-697-6351-2 โทรสาร 0-2697-6350