ค้นหา
ห้องข่าว

เอสเอ็มอีดิ่งสุดรอบ5ปี คลังค้ำเงินกู้หมุนจ่ายภาษี3หมื่นล.

สสว.คาดจีดีพีเอสเอ็มอีปี  52  ตกแน่  2%  รายได้กำไรร่วงไม่หยุด  แนวโน้มเบี้ยวจ่ายดอกเบี้ย   ผลการดำเนินงานรูดต่ำสุดในรอบ  5  ปี  จับตากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ  ยานยนต์  ด้าน  ครม.ให้  บสย.ค้ำเงินกู้  100%  หมุนจ่ายภาษี  3  หมื่นล้าน  เงื่อนไขมาก่อนมีสิทธิ์ก่อน

     นายภักดิ์  ทองส้ม  รองผู้อำนวยการ   รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  (สสว.)  เปิดเผยว่า  ผลสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม  (เอสเอ็มอี)  ทั่วประเทศล่าสุดเมื่อวันที่  24  เม.ย.  พบผลกระทบจากความกังวลและความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ  ตั้งแต่ไตรมาส  4/51  ถึงปัจจุบัน  อาจส่งผลต่อการดำเนินงานในปีนี้  โดยอัตราการขยายตัว  (จีดีพี)  ของเอสเอ็มอีปี  52  จะปรับลดลง  2%  หรือมีมูลค่าเพียง  3.4  ล้านล้านบาท  ซึ่งจำนวนผู้ประกอบการอยู่ที่  2.4  ล้านราย  ลดลง  0.06%  และจำนวนแรงงาน  8.91  ล้านราย  ลดลง  2.74%  ส่วนการส่งออกจะมีมูลค่าเพียง1.58   ล้านล้านบาท  ลดลง  6.41%  รายได้สุทธิลดลงจาก  5.92  ล้านล้านบาท  เหลือ 5.78   ล้านล้านบาท   หรือ  2.33%  กำไรสุทธิลดลงจาก  0.251  ล้านล้านบาท  เหลือ  0.229  ล้านล้านบาท  หรือ  8.51%

     "การปรับลดลงของรายได้และกำไรสุทธิ  ตลอดจนผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ  ได้ส่งผลต่อดัชนีผลตอบแทนจากการดำเนินงาน  ผลิตภาพแรงงานและความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย  โดยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องและจะต่ำสุดในรอบ  5  ปี"  นายภักดิ์กล่าว

     ทั้งนี้  อัตราผลตอบแทนจากการดำเนินงานอาจลดลงจาก  4.24%  เหลือ  3.98%  ด้านผลิตภาพแรงงาน  (มูลค่าเพิ่มต่อจำนวนแรงงาน)  ลดลง  4.71%  หรือจากผลิตภาพแรงงานที่ทำได้ประมาณ  77,200  บาทต่อคนต่อปีในปี  51  ลดลงเหลือ  73,500  บาทต่อคนต่อปีในปี  52  ส่วนความสามารถในการชำระหนี้ลดลงจาก  2.74%  เหลือเพียง  2.59%

     นอกจากนี้  สสว.ยังร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาประจำภูมิภาคสำรวจผู้ประกอบการ  4,200ตัวอย่างทั่วประเทศ   โดยผู้ประกอบการยังมีความกังวลด้านเศรษฐกิจสูงถึง  98.66%  ปัญหาการเมือง  97.21%  การบริโภคภายในประเทศที่ลดลง  96.23%  แม้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเริ่มดำเนินการ  แต่ต้องใช้เวลาแก้ไขต่อเนื่องไม่น้อยกว่า  2  ปีกว่าจะฟื้น   

     สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ   ได้แก่  เครื่องใช้ไฟฟ้า  สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม  หนังและผลิตภัณฑ์หนัง  ผลิตภัณฑ์พลาสติก  แก้วและเซรามิก  เฟอร์นิเจอร์  ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้   ผลิตภัณฑ์ยางเหล็ก   โลหะ  ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์  และบริการเสริมสุขภาพ  สปา

     ด้านนายกรณ์   จาติกวณิช   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า   คณะรัฐมนตรี  (ครม.)  มีมติอนุมัติมาตรการสินเชื่อเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลของเอสเอ็มอี  เพื่อเสริมสภาพคล่อง  เพราะใกล้ถึงฤดูชำระภาษีนิติบุคคล  ซึ่งต้องยื่นแบบเสียภาษีในเดือน  พ.ค.นี้  โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม  (บสย.)  ค้ำประกัน  100%  แก่เอสเอ็มอีที่ขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ   วงเงินค้ำประกันรวม   1  หมื่นล้านบาท  เงื่อนไขการกู้เงิน  คือระยะเวลาการให้สินเชื่อ  1  ปี  ปลอดหนี้ 3  เดือน  อัตราดอกเบี้ย  4%  ต่อปี  จ่ายชำระรายเดือน  แต่ไม่กำหนดวงเงินค้ำประกันต่อราย  และผู้มาขอก่อนรับสิทธิ์ก่อน  เพื่อชำระภาษีได้ทันในเดือน  พ.ค.นี้

     ที่ผ่านมา  ธุรกิจเอสเอ็มอีเสียภาษี  3  หมื่นล้านบาทต่อปี  ซึ่งปกติผู้ประกอบการที่เสียภาษีล่าช้าต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอีก  1.5%  ต่อเดือน  แต่ถ้ากู้ไปชำระภาษี  ดอกเบี้ยถูกกว่ามากและ  บสย.ไม่คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันและสถาบันการเงินตีเช็คให้กรมสรรพากรโดยตรง

                                                             ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 29 เมษายน 2552

 

 



ศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัวและ SMEs ( Family Business & SMEs Study Center ) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตึก 7 ชั้น 12
เบอร์โทรศัพท์ 0-2-697-6351-2 โทรสาร 0-2697-6350