ค้นหา
ห้องข่าว

ศก.แย่เอสเอ็มอีเจ๊งระนาว

  แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปี 2552 คาดว่าจะมีกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่จะต้องปิดกิจการลงประมาณ 10% ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งระบบที่มีประมาณ 2 ล้านราย โดยกิจการที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมาก คือ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและยังไม่รู้ว่าจะถึงจุดต่ำสุดเมื่อใด ประกอบกับเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ ยังเป็นปัจจัยที่เข้ามาซ้ำเติมให้ภาคธุรกิจแย่ลงไปอีกด้วย

          “ขณะนี้กิจการโรงแรมขนาด 200 ห้อง และโรงแรมสร้างใหม่ เริ่มออกอาการไม่ดีให้เห็น โดยบางแห่งมีคนเข้าพักไม่ถึง 20% และบางแห่งก็ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงตามเวลา นอกจากนี้ยังต้องจับตาดูเอสเอ็มอีรายเล็กมาก-รายเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มที่เคยเป็นช่างฝีมือ แล้วผันตัวเองขึ้นมาทำธุรกิจ เพราะมีสายป่านทางการเงินสั้น”

          นายวิวัฒน์ กิตติพงษ์โกศล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารมีสินเชื่อกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวประมาณ 15% จากพอร์ต 2.25 แสนล้านบาท และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) อยู่หลายราย และต้องยอมรับว่าลูกค้ากลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น ซึ่งธนาคารจะเข้าไปดูแลด้วยการยืดเวลาชำระหนี้ พร้อมทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน รวมไปถึงการบริหารจัดการธุรกิจในภาวะเช่นนี้อย่างใกล้ชิด

          อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมที่เชื่อว่าจะขยายตัวได้ดีคือ อุตสาหกรรมอาหาร โรงรับจำนำ โดยปีนี้ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่ 1-1.5 หมื่นล้านบาท เป็นสินเชื่อลูกค้าเก่า 70% ลูกค้าใหม่ 30% ส่วนหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาสแรกอยู่ที่ 3-4%

                                                               ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง ฉบับวันที่ 27 เมษายน 2552

 

 



ศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัวและ SMEs ( Family Business & SMEs Study Center ) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตึก 7 ชั้น 12
เบอร์โทรศัพท์ 0-2-697-6351-2 โทรสาร 0-2697-6350