วัดชีพจร SMEs ปีชวด ส่อแววสาหัสไม่เลิก

ดร.ดำริ สุโขธนัง รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการเป็นประธานเปิดการสัมมนา เพื่อการรายงานสถานการณ์และเตือนภัย ครั้งที่ 3/2550 ในหัวข้อ “เศรษฐทัศน์ SMEs ไทย จากปีกุนสู่ปีชวด 2551” ซึ่งจัดโดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ว่า สถานการณ์ SMEs ในช่วงสุดท้ายของปี 2550 นี้ โดยรวมแล้วพื้นฐานในประเทศไทยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ดุลการค้าของประเทศยังมีโอกาสเกินดุล เนื่องจากส่งออกยังคงขยายตัวได้ดีทั้งวิสาหกิจขนาดใหญ่และ SMEs แต่ผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ จะส่งผลต่อการนำเข้าที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 1/2551 และคาดว่าธุรกิจการค้าและบริการจะกลับมาเกินดุล ไปจนถึงต้นปี 2551 เนื่องมากจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว สำหรับภาพรวมของสถานการณ์ SMEs ปี 2550 มีผู้ประกอบการ SMEs จำนวนประมาณ 2.3 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 99% จากจำนวนวิสาหกิจทั้งหมด ก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 9 ล้านคน หรือ 76% ของการจ้างงานทั้งระบบ สามารถสร้างมูลค่าตลาดจากรายได้รวมได้ถึง 5.695 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% จากทั้งประเทศ โดยแบ่งเป็นการส่งออก 1.568 ล้านล้านบาท หรือ 29% จากการส่งออกทั้งหมด และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้านการเงิน (Economic Value Added) ได้ 265,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 24% จากทั้งประเทศ ตลอดจนมีผลตอบแทนจากการดำเนินงานเฉลี่ย 4.41% สำหรับปี 2550 นี้ แม้ SMEs จะต้องแบกรับภาระต้นทุนและผลกระทบจากปัจจัยภายนอกอื่นๆ จนทำให้ผลตอบแทนจากการดำเนินงานลดลงกว่า 25% หรือจาก 6.04% เป็น 4.41% มูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจทางการเงินลดลง 23% หรือจาก 340,000 ล้านบาท เป็น 265,000 ล้านบาท แต่จากการศึกษา วิเคราะห์และคาดการณ์ SMEs รายสาขาด้วยระบบเตือนภัยเพื่อการลงทุน หรือ WSI และระบบเตือนภัยล่วงหน้า EWS ของ สสว. พบว่าในปี 2551 ที่กำลังจะถึงนี้ จำนวน SMEs น่าจะมีอัตราการขยายตัวประมาณ 2.58% หรือเพิ่มเป็น 2.38 ล้านราย ก่อให้เกิดอัตราการขยายตัวด้านการจ้างงานประมาณ 3.76% หรือ เพิ่มเป็น 9.4 ล้านคน

ด้านนางจิตราภรณ์ เตชาชาญ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดว่า แนวโน้มด้านการส่งออกของธุรกิจ SMEs ในปี 2551 นั้น SMEs ยังมีขีดความสามารถในการส่งออกระดับน่าพอใจ โดยการคาดการณ์จากข้อมูลแนวโน้มไตรมาส 4/2550 พบว่า SMEs น่าจะมียอดการส่งออกในปี 2551 ขยายตัวต่อเนื่องประมาณ 8.12% จากปี 2550 โดยคิดเป็นมูลค่าการส่งออกประมาณ 1.696 ล้านล้านบาท และแม้ว่าการคาดการณ์จะมีการปรับฐานลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่โดยรวมแล้วถือว่า SMEs ยังมีขีดความสามารถด้านการส่งออกที่ดีในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขทางเศรษฐกิจของ SMEs ทั้งอัตราการขยายตัวและมูลค่าการส่งออกและรายได้ จะมีทิศทางที่ดี แต่เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้านการเงิน หรือ Economic Value Added ของ SMEs แล้ว พบว่า จากข้อมูลด้านต้นทุน กำไรต่อหน่วย และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามแนวโน้มไตรมาส 4/2550 นี้ทำให้ EVA ของ SMEs ปรับตัวลดลงอีก 3.45% หรือน่าจะมีมูลค่า ณ สิ้นปี 2551 ประมาณ 255,726 ล้านบาท และยังพบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อต้นทุนและกำไรของ SMEs หลักๆ นั้นมาจาก ค่าเงินบาท ราคาน้ำมัน แรงงาน และกลยุทธ์ด้านราคาที่ไม่สามารถแข่งขันได้

                                                                             ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤศจิกายน 2550

ดาวน์โหลด PDF