พาณิชย์กระตุ้นผู้ส่งออกใช้สิทธิจีเอสพีไปอียู

 

 

ที่มา :สำนักข่าวเนชั่น

5 กันยายน พ.ศ. 2550

 

10:59 น.   นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า การส่งออกภายใต้ระบบ GSP สหภาพยุโรป(อียู)ทางกรมฯออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าชนิด FORM A จำนวน 97,497 ฉบับ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 3,505.92 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 43.61%

สำหรับสินค้าสำคัญที่มีการส่งออกภายใต้สิทธิฯ GSP ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ รองเท้า ยางรถยนต์ ผลไม้/ลูกนัตแปรรูป เส้นใยนำแสง และถุงมือยาง เป็นต้น หากพิจารณาสัดส่วนของการใช้สิทธิฯ GSP สหภาพยุโรปอยู่ที่37.17% ของมูลค่าการส่งออกเฉพาะรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนหน้าพบว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.93%

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การใช้สิทธิ GSP สหภาพยุโรปไม่สูงเท่าที่ควร ซึ่งประกอบด้วย (1) ส่วนต่างระหว่างอัตราภาษี MFN (MOST FAVOURED NATION) และ GSP ที่ไม่มาก (2) มาตรการ SPS (SANITARY AND PHYTO SANITARY MEASURES) และ TBT (TECHNICAL BARRIERS TO TRADE) ที่มีความเข้มงวดสูง (3) เกณฑ์การได้แหล่งกำเนิดที่ยาก (4) เผชิญหน้ากับการแข่งขันที่รุนแรงจากสินค้าจีนและคู่แข่ง (5) การแข็งค่าของเงินบาทและต้นทุนการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นต้น

อย่างไรก็ดี กรมการค้าต่างประเทศในฐานะหน่วยงานหลักทำหน้าที่กำกับดูแลและส่งเสริมการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางการค้าต่าง ๆ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ให้ความรู้แก่ผู้ส่งออกทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งจัดคลินิคส่งออกเคลื่อนที่ไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อกระตุ้นเร่งให้ผู้ส่งออกเข้าใจและให้มาใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษ GSP สหภาพยุโรปมากขึ้นและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป