ไทยหนาวจีนฮึกเหิมยกเกรดอาหาร

     นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังพยายามเรียกความเชื่อมั่นต่อสินค้าที่ผลิตในประเทศจีนกลับคืนมา โดยได้ทุ่มงบประมาณ 34,000 ล้านบาท ปรับปรุงระบบความปลอดภัยอาหารและยาของประเทศภายใน 3 ปี มุ่งเน้นด้านความปลอดภัยอาหารและยาด้วยการนำเทคโนโลยี เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาช่วย เพื่อให้การพัฒนากระบวนการผลิตและกระจายสินค้าอาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการปลอมแปลงและการผลิตสินค้าที่ด้อยคุณภาพ 

      นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า หากจีนสามารถดำเนินการตามแผนได้จริง จะเป็นการปรับปรุงระบบการกำกับดูแลด้านอาหารครั้งใหญ่ หากผลเป็นที่ยอมรับของตลาดโลก สินค้าของจีนจะกลับมายึดครองส่วนแบ่งในตลาดโลกอีกครั้ง บวกกับความได้เปรียบด้านต้นทุนวัตถุดิบและค่าจ้างแรงงานที่ต่ำกว่าไทย ก็จะทำให้สินค้าอาหารของไทยต้องเผชิญกับคู่แข่งที่น่ากลัวมาก เพราะปัจจุบันจีนมีการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้นอย่างมาก บางผลิตภัณฑ์มีบรรจุภัณฑ์ใกล้เคียงกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสามารถในการออกแบบสินค้าที่โดดเด่น “อุตสาหกรรมอาหารของไทยจะต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของระบบกำกับดูแลด้านอาหารของจีน เพราะในแต่ละปี ไทยส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปตลาดผู้บริโภคจีนรวมกันประมาณ 5 ล้านตัน มูลค่า 40,000 ล้านบาท ในขณะที่ไทยนำเข้าจากจีนปีละ 550,000 ตัน มูลค่ามากกว่า 12,000 ล้านบาท การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ของจีนย่อมส่งผลต่อกระบวนการนำเข้าและส่งออกของไทย ยังไม่นับรวมกับการแย่งยอดขายในตลาดโลกของทั้งสองประเทศอีกทางหนึ่ง ซึ่งสินค้าที่สำคัญของไทยที่ส่งออกไปจีน เช่น ข้าวหอมมะลิ ลำไยสด ลำไยแห้ง น้ำตาล”.

 

ที่มา :ไทยรัฐ    วันที่  3 ตุลาคม พ.ศ. 2550