กรมศุลแนะพัฒนาค้าชายแดน หนุนเป้าหมายตัวเลขส่งออก
|
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร
เปิดเผยว่า จากกรณีตัวเลขการส่งออกในเดือนกรกฎาคม 2550
ขยายตัวในอัตราค่อนข้างต่ำ เพียง 5.9%
กรมศุลกากรเห็นว่าตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่ควรให้ความสำคัญ
โดยเฉพาะการค้าชายแดน
เพราะการค้าชายแดนในช่วงที่ผ่านมามีสถิติสูงขึ้นต่อเนื่อง
โดยมีปริมาณการค้าบริเวณชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านต่อปีมากกว่า
200,000-300,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการส่งออกแบบมีใบขนส่งสินค้า (แอลซี)
ยังไม่รวมการส่งออกแบบไม่มีใบขนส่งสินค้า
หากคิดเป็นเม็ดเงินจะมากกว่าที่มีแอลซี และภายในไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า
การค้าชายแดนทั้งมีแอลซีและไม่มีแอลซีจะเพิ่มขึ้น 1-2 เท่า
ดังนั้น
ไทยควรจะเร่งพัฒนาการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น
โดยเฉพาะการสร้างสะพานเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเชื่อมโยงระบบการค้า
ซึ่งขณะนี้ไทยกับจีนร่วมกันสร้างสะพานตามจุดต่างๆ
เมื่อสร้างเสร็จน่าจะทำให้การขนส่งสินค้าจากไทยไปจีน เวียดนาม พม่า
และอีกหลายประเทศสะดวกรวดเร็วขึ้น
ซึ่งไทยเหมาะจะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้าอย่างมาก ดังนั้น
ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันพัฒนาการค้าชายแดนให้มากขึ้น
โดยเฉพาะการพัฒนาขนส่งระบบราง
อธิบดีกรมศุลกากรกล่าวอีกว่า
เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ส่งออก
กรมศุลกากรได้มีการเปิดอาคารศุลกากรตรวจสินค้าขาออก ณ
ส่วนบริการศุลกากร 2 สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เพื่อรองรับการส่งออกทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร (อี-เอ็กซปอร์ต)
ที่จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป (กรอบบ่าย)
หน้า 6
ที่มา :มติชน
วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10765 |
|