|
พาณิชย์ดิ้นดันส่งออกเอกชนถอดใจ'หลุดเป้า'
31
สิงหาคม 2550
เอกชนตอก "พาณิชย์" ย้ำส่งออกปีหน้าไม่ได้ตามเป้า
ระบุปัญหาซับไพรม์สหรัฐ-บาทแข็งฉุด หันรุกตลาดยุโรปที่ยังได้สิทธิจีเอสพี
กรมส่งออกรวบรวมข้อมูลก่อนถกฑูตพาณิชย์เดือน ก.ย.นี้
ยังหวังทั้งปีโต 12.5%
นางสมจินต์ เปล่งขำ
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก
เปิดเผยภายหลังหารือกับกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าอาหาร สินค้าเกษตร
และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ว่า เอกชนกลุ่มสินค้าอาหารแช่แข็ง กุ้ง
ทูน่ากระป๋อง เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและสิ่งทอ
แสดงความกังวลว่าการส่งออกปีนี้จะไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
สาเหตุสำคัญคือปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์)
ในสหรัฐ ที่จะทำให้รายได้คนสหรัฐลดลง
นอกจากนี้มีปัญหาเงินบาทแข็งและปัญหาเฉพาะรายสินค้า เช่น
มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) กุ้งและข้าวโพดหวาน เป็นต้น
สำหรับสินค้ากุ้ง
ผู้ส่งออกชี้แจงว่าปัญหาเอดีในสหรัฐมีผลกระทบสูงสุด เฉพาะเดือน
ก.ค.ส่งออกติดลบ 7% โดยแนวทางแก้ปัญหาคือ
การส่งออกไปตลาดยุโรปมากขึ้น เพราะได้สิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี)
และเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง
สินค้าทูน่ากระป๋อง ปัญหาหลักอยู่ที่วัตถุดิบมีราคาแพงขึ้น
ทำให้การผู้ส่งออกต้องปรับราคาสินค้าโดยเดือน
ก.ค.กลุ่มอาหารทะเลแช่แข็งกระป๋อง ลดลง 1.4% แนวทางแก้ปัญหาคือ
ใช้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าในการนำเข้าวัตถุดิบ ขณะที่กลุ่มสิ่งทอ
อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า
เริ่มไม่มั่นใจว่าจะส่งออกได้ตามเป้าหมาย
"กรมยังยืนยันเป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่
12.5% มูลค่า 145,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนจะมีการปรับเป้าหมายการส่งออกรายตลาดเพื่อทดแทนตลาดสหรัฐที่ลดลงหรือไม่ต้องขึ้นกับผลการประชุมร่วมกับทูตพาณิชย์
ซึ่งสาเหตุที่การส่งออกเดือน ก.ค.ขยายตัว 5.9%
มาจากการส่งออกไปตลาดสหรัฐลดลง 13.6% จากปัญหาซับไพรม์
จึงขอนำข้อมูลเหล่านี้ไปหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ"
นางสมจินต์กล่าว
นางสมจินต์กล่าวว่า
ผลจากการหารือกับเอกชนจะนำไปประกอบกับข้อมูลของผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
(ทูตพาณิชย์) ทั้ง 56 แห่งทั่วโลก ที่จะประชุมในเดือน ก.ย.นี้
ร่วมกับผู้แทนการค้ากิตติมศักดิ์ (เอชทีเอ)
และหัวหน้าศูนย์ภูมิภาคทุกแห่ง
เพื่อกำหนดแผนส่งเสริมการส่งออกที่เป็นระบบในช่วง 3
เดือนหลังของปีนี้ และการกำหนดเป้าหมายการส่งออกในปี 2551.
|
ที่มา :หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
31
สิงหาคม 2550 |
|
