'พาณิชย์'สั่งระบายข้าว 8 แสนตันสัปดาห์หน้า
 

 
"พาณิชย์"เร่งปรับแผนงานอคส. สั่งตั้งคณะทำงานดูแลเฉพาะเรื่อง หวั่นแก้ปัญหาช้ารัฐเสียหายซ้ำ เล็งระบายข้าว 8 แสนตันสัปดาห์หน้า เป็นข้าวเพรซิเดนท์ผิดสัญญา 5 แสนตัน ต้องจ่ายค่าส่วนต่างข้าวขายได้ราคาต่ำลง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นางอรนุช โอสถานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ว่าที่ประชุมได้หารือการแก้ไขปัญหากรณีบริษัทเอกชนผิดสัญญา โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว เพราะในการทำธุรกิจต้องสามารถตัดสินใจได้วันต่อวัน หากรอให้ทุกเรื่องผ่านคณะกรรมการอคส. (บอร์ด) จะไม่ทันเหตุการณ์ จึงสั่งให้อคส.พิจารณาช่องทางที่เหมาะสม เช่น การตั้งคณะทำงานแต่ละเรื่อง เพื่อตัดสินใจเรื่องต่างๆ รวดเร็ว ไม่ส่งผลให้รัฐเสียหาย โดยกรณีการผิดสัญญาก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที

ส่วนปัญหาเงินค้างจ่ายค่าเช่าโกดัง ค่ารมควัน และค่าเซอร์เวเยอร์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการรับจำนำ ที่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ติดค้างตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้จนถึงปัจจุบัน มูลค่า 1,700 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์รับจะเร่งเสนอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเงินค้างจ่ายดังกล่าว

"ถือว่าเป็นเรื่องสุดวิสัยของอคส. เพราะต้องทำหน้าที่รับจำนำข้าวตามนโยบายของรัฐบาล และมีหนี้ค่าเช่าค้างชำระมาจนถึงขณะนี้ ก็จะทำเรื่องเสนอให้รัฐบาลอนุมัติงบประมาณชดเชยให้กับอคส. เร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว" นางอรนุชกล่าว

ทั้งนี้ ปัญหาการค้างจ่ายค่าเช่าให้กับโรงสีและโกดังกลาง ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาลนั้น คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) มีมติอนุมัติในหลักการให้จ่ายเงินให้กับอคส.แล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.50 และล่าสุด เรื่องนี้ถูกส่งไปให้นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธาน คชก. พิจารณาลงนามอนุมัติการจ่ายเงินแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการ

สั่งระบายข้าว 8 แสนตันสัปดาห์หน้า

สำหรับการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล ขณะนี้ อนุมัติในหลักการให้มีการระบายข้าวล็อตแรก 8 แสนกว่าตัน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในสัปดาห์หน้า

นายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผู้อำนวยการ อคส. กล่าวว่า ข้าวที่จะนำมาเปิดประมูลแยกเป็นข้าวที่อคส.ยึดมาจากบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ไม่มารับมอบข้าวตามสัญญา 5.56 แสนตัน ส่วนอีก 3.12 แสนตัน เป็นข้าวที่ได้จากโครงการรับจำนำของรัฐบาล

ทั้งนี้ ข้าวในส่วนของเพรซิเดนท์ หากเปิดประมูลและได้ผู้ชนะการประมูลไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็ต้องมาพิจารณาว่าข้าวที่ขายได้ ราคาถูกหรือแพงกว่าที่เพรซิเดนท์ซื้อไป หากได้ราคาต่ำกว่า ก็จะเรียกชดเชยส่วนต่างจากเพรซิเดนท์ พร้อมทั้งค่าปรับอื่นๆ เช่น ค่าผิดสัญญารับมอบข้าว

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ อคส. ยังเปิดโอกาสให้เพรซิเดนท์ส่งผู้มีอำนาจมาเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้ส่งหนังสือเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะตามหลักของการทำธุรกิจ การเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาถือเป็นทางออกทางหนึ่ง ไม่ใช่ว่าจะดำเนินการตามกฎหมายทันทีที่ผิดสัญญา แต่หากไม่ให้ความร่วมมือ อคส.จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข้าวหายได้คืนแล้ว 3 หมื่นกระสอบ

สำหรับการติดตามข้าวที่ถูกขโมยออกจากโกดัง จ.พิจิตร 54,675 กระสอบ ติดตามคืนได้แล้วประมาณ 30,000 กระสอบ เหลืออีก 24,000 กระสอบที่กำลังติดตาม คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะคืนได้ครบหมด ส่วนกรณีที่ระบุว่า อคส.ปล่อยให้โรงสีที่ถูกขึ้นบัญชีดำ เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวนั้น เป็นเพราะโรงสีที่มีปัญหาข้าวหายได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการก่อนหน้านี้แล้ว และเมื่อเข้าร่วมโครงการแล้วจึงเกิดปัญหาข้าวหาย และขึ้นบัญชีดำในภายหลัง

รายงานข่าวแจ้งว่า โรงสีธัญญาเรือง จ.นครสวรรค์ ร่วมโครงการนาปี 47/48 ค้างส่งมอบข้าวสาร ซึ่งโรงสีต้องชำระค่าเบี้ยปรับ แต่จากการตรวจสอบสต็อกทุกครั้งครบถ้วน จนถึงวันที่ 3 เม.ย.49 พบว่าข้าวเปลือกและข้าวสารขาดบัญชี และโรงสีก็ไม่ได้เข้าร่วมโครงการอีกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ส่วนบริษัท อำนวยธัญกิจ จำกัด จ. พิจิตร ร่วมโครงการนาปี 47/48 ส่งมอบข้าวสารและชำระค่าปรับครบถ้วน จึงได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการนาปี 48/49 เมื่อ 11 พ.ย.48 พบว่าข้าวเปลือกและข้าวสารขาดหาย เมื่อ 25 ม.ค.49

โรงสีราชาการเกษตรไรซ์มิล จ.พิจิตร ร่วมโครงการนาปี 48/49 โดยให้เช่าโกดังกลาง ซึ่งได้รับอนุมัติเมื่อ 21 ธ.ค.48 และเริ่มรับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.49 ถึงวันที่ 5 ก.พ.49 พบว่าข้าวสารหาย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.49

ตั้งชุดตรวจสอบโกดังสีข้าวทั่วพิจิตร

วานนี้ (29 ส.ค.) นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรเรียกประชุม คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติประจำจังหวัดพิจิตร เพื่อหาทางป้องกันและแก้ไขการขโมยข้าวจากโกดังอคส. พร้อมตั้งคณะกรรมการ 3 ชุด ออกตรวจสอบโกดังกลางในจังหวัดทั้งหมด 15 แห่ง โดยตรวจสอบปริมาณข้าวและสภาพของข้าว ขณะที่คุณภาพข้าวจะมีผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนั้น ผู้ว่าฯ ได้ขอทหารจากค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ มาเฝ้าโกดังข้าวทั้งหมดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเริ่มวันนี้ (30 ส.ค.) เป็นวันแรก

ส่วนความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ไถง ปราศจากศัตรู รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรรังษี ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการสอบสวนคดีพิเศษการขโมยข้าว อคส. ที่ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.อ.ตะพานหิน พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนภาค 6 กว่า 60 นาย ตรวจค้นบ้านพักคนงานในโรงสีธัญญาเรือง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

พบข้าวสาร 5% บรรจุในกระสอบมีรหัสสัญลักษณ์ของ อคส.พิจิตร อีก 4,000 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ในห้องพักคนงาน จึงอายัดไว้เป็นของกลางและเคลื่อนย้ายไปรวบรวมไว้ที่โกดังราชาการเกษตรไรซ์มิล อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร

สั่งพิสูจน์โรยตัวเปิดประตูโกดัง

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าของวันนี้ พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้เดินทางไปยังโกดังราชาการเกษตรไรซ์มิล เพื่อตรวจสอบรหัสบนกระสอบข้าว สำหรับใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคือ นายอำนวย ค้าธัญญาเรือง และกล่าวว่า หลังจากที่นายอำนวยถูกจับกุมและสารภาพแล้วนั้น เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ส่วนตำรวจจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องของตำรวจ ที่จะต้องสืบสวนสอบสวนขยายผล เพื่อหาตัวผู้ร่วมกระทำผิด

"เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายมหาศาลต่อเกษตรกรและรัฐบาล ขณะที่ จ.พิจิตรก็ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดหลายครั้งซ้ำซาก แต่ละครั้งมีวิธีการโกงแตกต่างกันไป ดังนั้น ตำรวจจะต้องทุ่มเทและพยายามให้มากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ให้ได้ ส่วนเรื่องที่นายอำนวยให้การว่า โรยตัวลงมาเปิดประตูโกดังนั้นคงจะต้องพิสูจน์กัน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่า มีคนของรัฐเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยหรือไม่" พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าว

ส่วนหลักฐานขณะนี้ พบเพิ่มเติมกระสอบบรรจุข้าวอีก 2 หมื่นกระสอบ ที่โรงสีธัญญาเรือง อ.ท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ดังนั้น ตำรวจพบกระสอบข้าวที่ใช้บรรจุข้าวที่หายไปเกือบจะครบแล้ว ส่วนข้าวหายไปไหนก็จะต้องตามไปหาต่อไป และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะต้องจับผู้ต้องหาเพิ่มอีกอย่างแน่นอน


 

ที่มา :กรุงเทพธุรกิจ    วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2550