นายวินิจฉัย
แจ่มแจ้ง รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.)
กล่าวถึงกระบวนการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-ญี่ปุ่น ว่า
ที่ผ่านมามีการเจรจามาแล้ว 10 ครั้ง
และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมวันที่ 3 - 6 พฤศจิกายนนี้
ซึ่งเนื้อหาหลักของการเจรจาจะคล้ายกับการทำเขตการค้าเสรีโดยทั่วไป
ซึ่งครอบคลุมการค้าสินค้า
ซึ่งมีการลดและยกเลิกภาษีระหว่างประเทศในภูมิภาคเดียวกัน นอกจากนี้
ยังมีมาตรการสุขอนามัยในเรื่องโรคพืชและสัตว์ การค้า บริการ การลงทุน
ซึ่งประโยชน์ที่ไทยจะได้รับ คือการใช้สิทธิภายใต้กรอบความตกลง
ในการสะสมยอดวัตถุดิบจากภายในและประเทศในกลุ่มในการลดภาษี
ขณะที่ในภาพรวมมูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นจะโตเพิ่มขึ้นจาก
150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวด้วยว่า
หากการเจรจาในครั้งต่อประประสบผลสำเร็จ
จะมีการรายงานผลและออกแถลงการณ์ของผู้นำอาเซียน ในเวทีอาเซียนซัมมิต
กลางเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อทำความตกลงให้อยู่ในรูปสนธิสัญญาตามกฎหมาย
และคาดว่าจะสามารถลงนามความตกลงกับญี่ปุ่นได้ประมาณมีนาคม-เมษายน
มีผลบังคับใช้กลางปี 2551