หญิงญวนรุ่นใหม่ซื้อ"วิตตอง"50ใบ
มหาเศรษฐีจ่ายเบนซ์-บีเอ็มฯเงินสด
คนรุ่นเก่าห่วงบ้าวัตถุ-รากหญ้าโวย
เวียดนามยุคใหม่บ้าวัตถุเพื่ออวดฐานะ หญิงบางคนซื้อกระเป๋าหลุยส์
วิตตองถึง 50 ใบ ส่วนมหาเศรษฐีควักเงินสดซื้อเบนซ์-บีเอ็มฯ
รากหญ้าโวยคนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนชักหน้าไม่ถึงหลัง
คนรุ่นเก่าห่วงบ้าวัตถุสูญเสียจิตวิญญาณ
เอพีรายงานว่า
จากการที่เวียดนามได้ปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจไปสู่ระบบเปิด
จนทำให้ปัจจุบันเศรษฐกิจมีการขยายตัวสูง
ทำให้ชาวเวียดนามมีรายได้มากขึ้น มีคนรวยมากขึ้น
สิ่งที่ตามมาคือความนิยมสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ เพื่อแสดงว่ามีรสนิยมสูงและเป็นคนชั้นสูง
โดยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็นหลุยส์ วิตตอง, กุชชี่,
เบอร์เบอรี่
ต่างผุดขึ้นเต็มไปหมดในเมืองหลักอย่างฮานอยและโฮจิมินห์
รายงานข่าวระบุว่า
คนเวียดนามรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อสินค้าแบรนด์เนมได้นี้
มักเป็นชาวเวียดนามที่ทำงานกับบริษัทข้ามชาติ, บริษัทเอกชน
หรือไม่ก็บริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของ
เหงียน ทิ คัม แวน หญิงสาววัย 39 ปี
ซึ่งทำงานกับบริษัทซีเมนส์แห่งเยอรมนีประจำเวียดนาม บอกว่า
คนเวียดนามรุ่นใหม่อยากใช้ชีวิตให้เพลิดเพลินและบำรุงบำเรอตัวเองด้วยสิ่งหรูๆ
โดยสำหรับตัวเธอเองซื้อกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ไปแล้ว 5 ใบ ราคา
1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 34,000 บาท)
"ถ้าฉันสามารถซื้อบางอย่างดีๆ ได้ มันทำให้ฉันรู้สึกภูมิใจ
เพราะคุณสามารถอวดรสนิยมและสไตล์ของคุณเองให้ชาวบ้านเห็น
เพื่อนของฉันมีหลุยส์ วิตตอง 50 ใบ แต่ฉันคิดว่าสำหรับตัวฉันเองมี
5 ใบก็น่าจะพอ แต่ฉันก็ไม่กล้าบอกพ่อฉันหรอกว่าฉันมีกระเป๋านี้"
เหงียน ทิ คัม แวน กล่าว
เหงียน โฮอัง เตรียะ ดีลเลอร์ขายรถในเมืองโฮจิมินห์ บอกว่า
ในกลุ่มคนเวียดนามที่รวยมากนั้น
จะนิยมซื้อรถยี่ห้อยอดนิยมอย่างเบนซ์หรือไม่ก็บีเอ็มดับเบิลยู
และที่น่าทึ่งคือซื้อด้วยเงินสด
"ในอเมริกา คุณซื้อแบบผ่อนส่ง แต่ที่นี่จ่ายด้วยเงินสด
บางคนหอบเงินใส่กระเป๋ามาเลยสดๆ 400,000 ดอลลาร์"
ดีลเลอร์รายนี้กล่าว
รายงานข่าวระบุว่า แม้ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา
เวียดนามจะสามารถลดความยากจนลงและคนมีรายได้มากขึ้น
แต่ทว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังยากจน โดยมีรายได้เพียงวันละ 1-2 ดอลลาร์
"คนรวยยิ่งรวยขึ้น
ส่วนพวกเราส่วนใหญ่ต้องดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตไปวันๆ
เงินที่พวกเขาซื้อหลุยส์ วิตตอง
สามารถซื้อวัวให้ชาวนาได้ตั้งหลายตัว" ด่าว ควง ฮัง
คนขับแท็กซี่ในฮานอยกล่าว
คนรุ่นเก่า หู ง็อค วัย 90 ปี บอกว่า
ลัทธิปัจเจกนิยมกำลังทำลายอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเวียดนาม
เราอาจรวยขึ้นแต่ว่าอาจสูญเสียจิตวิญญาณ
คนรุ่นใหม่กำลังแข่งกันเพื่อความสนุกทางวัตถุ
หน้า 20