ที่มา :ไทรรัฐ

24 กันยายน 2550

ดันกฎหมายรับตลาดเงินโลกผันผวน

 

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการปรับตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคตที่จะมีความผันผวนของระบบการเงินโลกว่า  ประเทศจะต้องสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น  และสร้างความยืดหยุ่นที่มากขึ้นให้กับระบบเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ นโยบายการแข่งขันที่ดีที่สุดของประเทศ ในมุมมองของตนคือ  การสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของภาคเอกชน  ซึ่งหมายรวมถึงการเปิดเสรีด้วย  เพราะการเปิดเสรีจะช่วยให้เกิดแรงจูงใจในการลงทุนมากขึ้น  เพื่อก่อให้เกิดแนวความคิดใหม่ๆ  และหาหนทางที่ดีที่สุดเพื่อการแข่งขันกับต่างประเทศ  ซึ่งในส่วนของระบบการเงินนั้น ผู้ที่สามารถจัดการกับความเสี่ยงจะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์ มากที่สุดจากการไหลเข้าของเงินทุน ภาพข้างหน้าของระบบการเงินไทยได้เปลี่ยน แปลงไป จากเดิมที่แน่ใจว่าการกำกับดูแลและกฎเกณฑ์ ที่เหมาะสมจะช่วยให้เกิดความก้าวหน้าของระบบการเงินที่เหมาะสม แต่ในขณะนี้การสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน  และสถาบันการเงินที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้การบริหารความเสี่ยงทางการเงินเป็นอีกเรื่องที่สำคัญเพื่อรับมือความผันผวนของระบบการเงินโลก

โดยร่างแก้ไข  พ.ร.บ.การเงินทั้ง 4 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ร.บ.เงินตรา และ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก  ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่สำคัญที่จะช่วยในการวางรากฐานในการรับมือความผันผวนของระบบการเงินจากกระแสการไหลเข้าออกของเงินทุน และการเก็งกำไรจากนักลงทุนต่างประเทศที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต 

“ขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก และ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน และ พ.ร.บ.เงินตรา อยู่ในขั้นตอนของการเข้าการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ขณะที่ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่าง การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา”

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวยอมรับว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับความผันผวนและความสับสนอลหม่านของระบบการเงินโลกต่อไป และมีแนวโน้มที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม ธปท.จะไม่แก้ปัญหาหรือวางนโยบายใดๆในระยะสั้น แต่จะชั่งน้ำหนักอย่างระมัดระวังระหว่างปัจจัยระยะสั้น และระยะยาว.