ที่มา :กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

20 กันยายน 2550

สมาคมกุ้งจี้รัฐคุมนำเข้าหวั่นลอบสวมแหล่งกำเนิดฯ
 

    สมาคมกุ้งเตือนรัฐคุมเข้มกุ้งนำเข้า หวั่นลอบสวมแหล่งกำเนิดสินค้าส่งออกทำไทยชื่อเสียงเสียหายยับ ระบุส่งผลกระทบเกษตรกรและอุตสาหกรรมกุ้งไทยแน่

นายสมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบางประเทศที่ผลิตกุ้งรายสำคัญในภูมิภาคเอเซีย กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ในการส่งออกกุ้งไปตลาดต่างประเทศ แล้วถูกปฏิเสธการนำเข้า เนื่องจากได้ตรวจพบว่ามีสารอันตรายต่างๆปนเปื้อน เช่น ไนโตรฟูแรนส์ และสารอื่นๆ

ประเทศเหล่านี้กำลังหาโอกาสส่งกุ้งดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย เพื่อแปรรูปใหม่ (RE-PROCESS) และ/หรือส่งออกใหม่ (RE-EXPORT) ไปอีกครั้งในนามกุ้งประเทศนั้นๆ รวมทั้งในนามกุ้งไทย หรือการสวมแหล่งกำเนิดสินค้าไทย จึงนับเป็นการบ่อนทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงกุ้งไทยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งทำลายเกษตรกรและอันตรายต่อผู้บริโภค

ผลผลิตกุ้งไทยได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ได้มาตรฐานการเลี้ยง COC และ GAP ที่ปลอดภัย เลี้ยงในระบบปิด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการใช้สารเคมีใดที่เป็นอันตราย และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (TRACEABILITY) ทั้งกระบวนการผลิตและแปรรูป ภายใต้การควบคุมที่เข้มแข็งของกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

“ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนที่สุด ถ้าเป็นไปได้ขอให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดในกุ้งนำเข้าทุกล๊อต เพราะตอนนี้แพคเกอร์ของหลายประเทศที่ถูกปฏิเสธกุ้งไม่ให้เข้าประเทศดังกล่าว กำลังพยายามดิ้นหาทางออก ทางหนึ่งคือส่งกุ้งที่มีปัญหาดังกล่าว ผ่านเข้าประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย ซึ่งจะเป็นอันตรายทั้งต่อผู้บริโภคในประเทศ และชื่อเสียงกุ้งไทย"นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าว

นายมศักดิ์ กล่าว่า สิ่งที่น่าห่วงที่สุด คือ เกรงว่าประเทศผู้นำเข้ากุ้ง จะห้ามนำเข้ากุ้งจากประเทศไทยทั้งหมด หากพบว่ามีสารตกค้าง เรื่องนี้สำคัญมาก ขอให้ภาคการแปรรูปส่งออก ช่วยกันสอดส่องดูแล อย่าให้ใครเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แล้วทำลายชาติ ทำลายอุตสาหกรรม โดยนำเข้ากุ้งที่มีปัญหาเข้ามา

รายงานกรมศุลกากร ข้อมูลการนำเข้ากุ้งแช่แข็ง พิกัด 0306.10 ในช่วงเดือน ม.ค. - ก.ค. 2550 ปริมาณ 4,060 ตัน มูลค่า 759 ล้านบาท