ที่มา :คมชัดลึก

13 กันยายน 2550

พาณิชย์นำทัพเอกชนลุยตลาดยุ่น

    

       พาณิชย์เตรียมนำภาคเอกชนกลุ่มอัญมณี สิ่งทอและอาหาร ลุยเปิดตลาดในญี่ปุ่น ก่อนเจเทปามีผลบังคับใช้ 1 พ.ย.นี้ เชื่อการเมืองญี่ปุ่นไม่มีผลกระทบ

     นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ข้อตกลงความร่วมมือหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (เจเทปา) จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ทำให้สินค้าสำคัญ 4 รายการ ได้รับการลดภาษีทันที คือ อาหาร อัญมณี พลาสติก และสิ่งทอ โดยระหว่างวันที่ 21-30 กันยายนนี้ นายเกริกไกร จีระแพทย์ จะนำคณะผู้แทนการค้าไทยเดินทางไปโรดโชว์ญี่ปุ่น ยังมีเอกชนไทยใน 3 กลุ่มได้แก่ อัญมณี สิ่งทอและอาหาร รวม 10 ราย ไปพบปะเจรจาการค้าผู้ประกอบการญี่ปุ่น ซึ่งมั่นใจว่าจะบรรลุการเจรจาและสามารถร่วมทุนหรือสั่งซื้อสินค้าได้แน่นอน

 "ขณะนี้ได้รับการยืนยันเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่า เจเทปาจะมีผลบังคับใช้ได้ภายใน 1 พฤศจิกายนนี้แน่นอน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของญี่ปุ่น ไม่ส่งผลกระทบต่อข้อตกลงแต่อย่างใด เพราะเจเทปาเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตอนนี้นักธุรกิจไทยและญี่ปุ่น จะตื่นตัวเจรจาธุรกิจกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุป" นายราเชนทร์ กล่าว

 ทั้งนี้ การมีข้อตกลงเจเทปาจะทำให้การค้าตลาดญี่ปุ่นมีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกตลาดนี้ขยายตัว สามารถลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐ โดยตลาดญี่ปุ่น ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนส่งออก 12.4% ของการส่งออกทั้งหมด มูลค่าการส่งออก 7 เดือนแรกปีนี้ 10,335 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 12.9% ซึ่งไทยจะต้องเร่งใช้โอกาสที่เจเทปามีผลบังคับใช้ ทำให้ตลาดญี่ปุ่นรู้จักสินค้าและบริการของไทยให้มากขึ้น