พาณิชย์แบะท่าตรึงราคาสินค้า

ที่มา นสพ .:เดลินิวส์

11 ตุลาคม พ.ศ. 2550  

       นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบราคาสินค้าที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ หากพบว่าสินค้าราย การใดมีต้นทุนปรับลดลง ก็จะให้ปรับราคาลดลงตามด้วย เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งสถานการณ์ราคาสินค้าขณะนี้ ยังไม่ให้สินค้ารายการใดปรับเพิ่มเติม และไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกแห่กักตุนสินค้า ซึ่งกรมฯยืนยันว่าจะพิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค ขณะที่ผู้ประกอบการก็ต้องอยู่ได้
 
อย่างไรก็ตามวันที่ 17 ต.ค. นี้จะเชิญผู้ผลิตสินค้าในบัญชีสินค้าติดตามดูแล 200 รายการ ของกรมฯ และผู้ประกอบการห้างค้าปลีกรายใหญ่มาหารือสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความเหมาะสมในการปรับราคาหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้รายได้ผู้บริ โภคยังไม่ปรับขึ้น หากสินค้าปรับขึ้นจะเพิ่มภาระให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุปโภค บริโภค และสินค้าเกษตรยังไม่อยากให้ปรับขึ้น และอยากเตือนผู้ประกอบการ หากพบว่ารายใดกักตุนสินค้า จนทำให้ตลาดปั่นป่วน จะมีโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ 2542 มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อค่าครองชีพจำนวน 588 รายการว่า มีสินค้าชนิดใดและประเภทใดบ้างที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้นจนกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าบ้าง โดยหากกระทบต่อต้นทุนผลิตสินค้าจริง กระทรวงฯคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งหากพิจารณากลไกตลาด การปรับเพิ่มราคาสินค้าอาจไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง เพราะตลาดมีสินค้าหลากหลาย ผู้บริโภคมีทางเลือกเลือกซื้อสินค้าชนิดเดียวกันมากขึ้น จึงอยากขอร้องผู้ประกอบการ หากยังสามารถแบกรับภาระต้นทุนสูงต่อไปได้ น่าจะรับภาระตรงนี้ไปก่อน
 
ส่วนช่วงเทศกาลกินเจตั้งแต่วันที่ 10-19 ต.ค.นี้ พาณิชย์ได้ร่วมกับผู้บริหารตลาดสด ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมกันจัดงาน “ผักสดจากสวนสู่ผู้บริโภคเทศกาลกินเจ” ใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อหวังให้ตลาดสดเหล่านี้ส่งสินค้าผักสดไปยังตลาดปลายทางมีราคาไม่แพงมากเกินไป
 
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรม การบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครือสหพัฒน์จะพยายามตรึงราคาสินค้าในเครือ ไว้จนถึงสิ้นปีนี้ เพราะไม่ต้องการซ้ำเติมผู้บริโภค ยกเว้นสินค้าบะหมึ่กึ่งสำเร็จรูปตรา “มาม่า” ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถตรึงราคาไว้ได้นานเพียงใด เพราะต้องขึ้นอยู่กับแนวโน้มของราคาวัตถุดิบเป็นหลัก ซึ่งล่าสุดยังมีวัตถุดิบเก่าและสามารถผลิตได้จนถึงสิ้นเดือนพ.ย.หากจำเป็นอาจต้องขึ้นราคาในเดือน ธ.ค.นี้.