"ยุโรป"ออกโรงกดดัน"หยวน"
                                                                                                               ที่มา นสพ :คมชัดลึก 

10 ตุลาคม พ.ศ. 2550   

สุดทนยูโรแข็ง-เซ็งมะกันนั่งตีขิม


ซีกยุโรปสุดทนเงินยูโรแข็งกว่า 20 % ออกโรงเองบีบจีนปรับปรุงค่าเงินหยวนเพื่อลดเกินดุลการค้า เตรียมยกพวกไปปักกิ่ง เซ็งสหรัฐไม่กระตือรือร้น วงในชี้ลึกๆมะกันแฮปปี้ ดอลลาร์อ่อน

รอยเตอร์และเอพีรายงานว่า ที่ประชุมของรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) มีมติร่วมกันว่า ในการประชุมประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี-7) ในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ที่สหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศยุโรปที่ใช้เงินสกุลยูโรจะนำปัญหาการเกินดุลการค้าของจีนและปัญหาค่าเงินหยวนเข้าหารือเป็นเรื่องหลักในที่ประชุม จี-7 โดยจะเรียกร้องให้จีนต้องลดการเกินดุลการค้าและต้องปรับเปลี่ยนค่าเงินหยวนที่อ่อนค่ากว่าความเป็นจริง โดยเห็นว่าค่าเงินหยวนเป็นผู้ร้ายตัวเอกในปัญหาการค้าและอัตราแลกเปลี่ยนของโลก

นายฌอง-คล้อด จังเกอร์ ประธานที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน กล่าวว่า ปัญหาหลักอันดับแรกก็คือค่าเงินหยวน อันดับสองคือค่าเงินดอลลาร์และอันดับสามค่าเงินเยน ซึ่งตนและนายฌอง-คล้อด ทริเช่ต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป จะเดินทางไปเยือนจีนก่อนปลายปีนี้เพื่อเจรจาปัญหาดังกล่าว

"แม้ว่าการแข็งค่าของยูโรจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการซื้อน้ำมัน และช่วยลดปัญหาเงินเฟ้อ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้ส่งออกในกลุ่มยูโรโซนแข่งขันในตลาดโลกได้ยากลำบากกว่าเดิม ในขณะที่ในตลาดโลกนั้นจีนเป็นผู้กำหนดราคาอ้างอิง ซึ่งเป็นราคาที่ประเทศอื่นๆในเอเชียเอาอย่างตาม"แถลงการณ์ของรัฐมนตรียูโรโซนระบุ

รายงานข่าวระบุว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าแถลงการณ์ร่วมของยุโรปในครั้งนี้ พุ่งเป้าไปที่ค่าเงินหยวนของจีน แต่กล่าวถึงสหรัฐน้อยมากเกี่ยวกับปัญหาเงินดอลลาร์อ่อนค่าจนทำให้เงินยูโรแข็ง โดยในแถลงการณ์ได้วิงวอนให้ตลาดเงินฟังคำพูดของสหรัฐที่ย้ำว่าต้องการให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งมากกว่าอ่อน

รายงานข่าวระบุว่า นับจากปี 1999 ที่มีการเริ่มใช้เงินยูโร ในกลุ่มประเทศยุโรป 13 ประเทศ ค่าเงินยูโรแข็งขึ้นกว่า 20 % เมื่อเทียบกับดอลลาร์และเยน และเฉพาะในช่วง 1ปีมานี้ ยูโรแข็งขึ้นถึง 10 % ที่ผ่านมายุโรปปล่อยให้สหรัฐอเมริกาเป็นผู้แสดงบทบาทหลักในการกดดันจีน แต่ก็ได้ผลน้อยมาก ดังนั้นในครั้งนี้ถือว่ายุโรปออกมาแสดงบทบาทหลักด้วยการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมจี-7 เพื่อกดดันจีน เพราะเห็นแล้วว่าทั้งสหรัฐและญี่ปุ่นไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นที่จะช่วยแก้ปัญหา

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายโรดริโก ราโต กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ที่กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่ง ได้ออกมาระบุว่า เงินดอลลาร์อ่อนค่ากว่าความเป็นจริง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปยอมรับอย่างเป็นส่วนตัวว่า สหรัฐไม่เต็มใจเหมือนในอดีตที่จะช่วยดูแลเงินยูโร เพราะสหรัฐอาจมีความสุขที่ดอลลาร์อ่อนค่าเพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกท่ามกลางสภาวะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีปัญหา

วันเดียวกันเอเอฟพีรายงานว่า ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกปีหน้าลงจาก 5.2 % เหลือ 4.8 % นอกจากนี้ยังลดประมาณการเศรษฐกิจของเยอรมนีจาก 2.4 % เหลือ 2 % ฝรั่งเศสจาก 2.3 % เหลือ 2